แม้ว่าตลาดกระทิงของ Bitcoin จะเผชิญกับการปรับฐานเป็นระยะๆ แต่สกุลเงินดิจิทัลอันดับหนึ่งก็สามารถยืนหยัดเหนือระดับจิตวิทยาสำคัญที่ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ มาได้ติดต่อกันถึง 142 วันแล้ว อย่างไรก็ตาม สถิติที่น่าประทับใจนี้กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างยิ่ง
อาลี มาร์ติเนซ (Ali Martinez) นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง ได้ออกมาเตือนว่าอนาคตระยะสั้นของ Bitcoin แขวนอยู่บนเส้นด้าย โดยมีแนวรับสำคัญเพียงเส้นเดียวเป็นตัวตัดสิน
แนวรับตัดสินชะตา $107,200 จุดชี้เป็นชี้ตาย
จากกราฟที่มาร์ติเนซแชร์ เขาได้ชี้ให้เห็นว่าระดับราคา $107,200 คือแนวรับที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในอดีต และจะเป็นตัวกำหนดทิศทางราคาของ Bitcoin ในรอบนี้
- สถานการณ์ “หมี” (Bearish Scenario) หากราคา Bitcoin ปิดต่ำกว่าระดับ $107,200 มาร์ติเนซคาดการณ์ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ราคาจะร่วงลงไปทดสอบ (retest) แนวรับที่ $100,000 อีกครั้ง และในกรณีที่เลวร้ายที่สุด อาจดิ่งลงไปถึง $93,000 ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เคยเห็นมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2025
- สถานการณ์ “กระทิง” (Bullish Scenario) ในทางกลับกัน หาก Bitcoin สามารถป้องกันแนวรับนี้ไว้ได้อย่างแข็งแกร่ง ก็จะเป็นการฟื้นฟูความเชื่อมั่นของตลาด และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการดีดตัวกลับขึ้นไป โดยอาจจะไม่ต้องกลับมาทดสอบระดับ $100,000 อีกเลยก็เป็นได้
ณ เวลาที่รายงานข่าวนี้ ราคา Bitcoin ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ $109,033 ซึ่งลดลง 2.07% ในรอบ 24 ชั่วโมง และนับว่าอยู่ใกล้กับแนวรับตัดสินชะตานี้อย่างน่ากังวล
สงครามระหว่าง ‘แรงซื้อสถาบัน’ และ ‘แรงเทขายทำกำไร’
การที่ Bitcoin สามารถยืนเหนือระดับ 100,000 ดอลลาร์มาได้นานกว่า 4 เดือนนั้น เป็นผลมาจากแรงหนุนของนักลงทุนสถาบันและการไหลเข้าของเงินทุนสู่กองทุน Spot Bitcoin ETF อย่างต่อเนื่อง บริษัทใหญ่อย่าง MicroStrategy และ BlackRock ยังคงเดินหน้าสะสม Bitcoin อย่างไม่หยุดหย่อน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลังโมเมนตัมของ Bitcoin เริ่มแผ่วลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากต้องเผชิญกับแรงกดดันหลายด้าน:
- การเทขายทำกำไร นักลงทุนที่ถือครอง Bitcoin มาตั้งแต่ราคาต่ำเริ่มเทขายเพื่อทำกำไร
- เงินไหลเข้า Exchange เพิ่มขึ้น มีการโอน Bitcoin เข้าสู่ sàn giao dịch มากขึ้น ซึ่งโดยทั่วไปเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความตั้งใจที่จะขาย
- ความเชื่อมั่นที่ลดลง นักเทรดเริ่มใช้ความระมัดระวังมากขึ้น ท่ามกลางบรรยากาศตลาดโดยรวมที่ไม่แน่นอน
ขณะนี้ ตลาดจึงอยู่ในภาวะชักเย่อระหว่างแรงซื้อระยะยาวของสถาบัน กับแรงขายทำกำไรในระยะสั้น ซึ่งแนวรับที่ $107,200 ได้กลายเป็น “เส้นวัดใจ” ที่สำคัญที่สุด ว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ชนะในการต่อสู้ครั้งนี้
ที่มา: u.today

