<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ดอลลาร์แข็งค่าทำเหรียญมีมทรุด แต่ Maxi Doge แหวกกระแส ! กวาดยอดระดมทุนทะลุ $2.5 ล้าน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

แม้ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง ส่งผลให้ตลาดส่วนใหญ่ รวมถึงตลาดคริปโต เข้าสู่ภาวะซบเซาอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน

ในขณะที่ Bitcoin (BTC) และโทเคนอื่น ๆ กำลังเผชิญกับแรงกดดันนี้ Maxi Doge (MAXI) ถูกจับตามองว่า เป็นโปรเจกต์ที่อาจพร้อมสำหรับการเติบโตอย่างก้าวกระโดดที่สุด เมื่อแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์คลายตัวลง

Maxi ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็น เหรียญมีม ที่รวมความเป็นสุนัข, มีม, และความกล้าบ้าบิ่นเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว สะท้อนแก่นแท้ของเหรียญมีมคือ ความกล้า, ความเกินจริง, และการถูกออกแบบมาเพื่อราคาที่เติบโต

ขณะนี้โปรเจกต์ MAXI อยู่ในช่วงระดมทุนเริ่มต้น และทำยอดระดมทุนทะลุ $2.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไปแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่า นักลงทุนคริปโตมองว่า MAXI เป็นโอกาสในการเก็งกำไรใน Altcoin ขั้นสูง ก่อนที่กระแสเงินทุนที่เน้นความเสี่ยงจะไหลเข้ามาในรอบถัดไป

เมื่อค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง และเงินลงทุนไหลกลับเข้าสู่คริปโต ในช่วงนั้นไม่ใช่แค่ BTC เท่านั้นที่จะได้รับความสนใจ แต่โทเคนอย่าง MAXI อาจเป็นที่โอกาสเติบโตอย่างก้าวกระโดดที่แท้จริง

MAXI โทเคนลูกพี่ลูกน้องของ Dogecoin (DOGE) มีราคาซื้อขายอยู่ที่ 0.000259 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อโทเคน อย่างไรก็ตาม ราคานี้จะอยู่ไปอีกแค่ 15 ชั่วโมง ก่อนที่จะมีการปรับขึ้นในรอบถัดไป

ราคา BTC ร่วงต่ำกว่า 110,000 ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่า แต่การลดอัตราดอกเบี้ย อาจกระตุ้นให้ Altcoin พุ่งขึ้นในเดือนธันวาคม

นับตั้งแต่การประชุม FOMC เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ค่าเงินดอลลาร์ แสดงทิศทางที่สวนทางกับที่หลายคนคาดการณ์ไว้ แทนที่จะอ่อนค่าลง หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้ ลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดพื้นฐาน มาอยู่ในช่วง 4.00%–4.25% แต่เงินดอลลาร์กลับแข็งค่าขึ้น

จากที่เคยลดลงไปแตะ 95.8 จุด เมื่อวันที่ 17 กันยายน ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ก็พุ่งขึ้นไปที่ 98.19 ภายในวันพฤหัสบดี และยังคงรักษาระดับอยู่ที่ 97.95 ณ เวลาที่เผยแพร่ข่าวนั้น

Source: TradingView

ปัจจัยหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังการแข็งค่าของดอลลาร์คือ คำกล่าวของ เจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed ซึ่งนักลงทุนไม่ได้ตีความว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายไปสู่การ ผ่อนคลาย (dovish pivot) แต่เป็นเพียงการ “ปรับลดเพื่อจัดการความเสี่ยง” โทนเสียงที่ระมัดระวังนี้ได้ สกัดความคาดหวังในการผ่อนคลายนโยบายที่รุนแรง และทำให้นักลงทุนพากัน ดึงเงินออกจากสินทรัพย์เสี่ยง

ความไม่แน่นอนทั่วโลกก็เป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงผู้นำในญี่ปุ่น, ปัญหาหนี้สินของอาร์เจนตินา, หรือความขัดแย้งในเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝรั่งเศส ล้วนทำให้นักลงทุนแห่กันเข้าหาสกุลเงินดอลลาร์ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe-Haven)

ในสภาพแวดล้อมที่ผู้คน หลีกเลี่ยงความเสี่ยงนี้ ราคา Bitcoin (BTC) ได้ร่วงลงต่ำกว่า $110,000 โดยแตะระดับต่ำสุดที่ $108,623 ในวันศุกร์

ส่วนตลาดคริปโตในวงกว้าง ก็ได้รับผลกระทบ โดยลดลง 1.8% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำให้มูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ $3.84 ล้านล้านดอลลาร์

ถึงกระนั้น ก็ยังมีความหวังเล็กน้อย แม้ว่า พาวเวลล์จะใช้โทนที่ระมัดระวัง แต่ก็มีการคาดการณ์อย่างกว้างขวางว่า Fed จะมีการ ลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน 

นอกจากนี้ ผู้ที่เดิมพันใน Polymarket ยังคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับลดอีก 25 จุดพื้นฐานในช่วงต้นเดือนตุลาคม แม้ว่าเดือนนั้นจะไม่ได้เป็นเดือนที่มีการประชุม FOMC ตามกำหนดก็ตาม

ความคาดหวังในการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินดังกล่าว อาจส่งผลต่อการซื้อขายในอนาคต โดยเฉพาะช่วงที่ราคา BTC มักจะเข้าสู่ภาวะตลาดขาขึ้น ในช่วงเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน ซึ่งได้รับแรงหนุนเพิ่มเติม

จากนั้นในเดือนธันวาคม ก็อาจจะเปิดประตูให้ตลาด Altcoin โดยเฉพาะเหรียญมีมอย่าง MAXI ราคาพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงยิ่งกว่าเดิม

เมื่อนักเทรดเริ่มมองข้าม Bitcoin เหรียญมีมจะได้รับความสนใจมากขึ้น

ในอดีตเดือน ตุลาคม และ พฤศจิกายน เป็นเดือนที่ Bitcoin (BTC) มักจะแข็งแกร่งที่สุด แต่ในโลกคริปโต เงินทุนไม่เคยหยุดนิ่ง เมื่อ Bitcoin พุ่งขึ้นและปริมาณการซื้อขายเริ่มลดลง นักลงทุนมักจะ หมุนเงิน ไปหาโอกาสที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ซึ่งเป็นช่วงที่ Altcoin ได้รับความสนใจ และ เหรียญมีม (Memecoin) มักจะได้รับแรงหนุนมากขึ้นจากการหมุนเวียนของเงินทุนนี้

เราเห็นรูปแบบการหมุนเวียนเงินทุนนี้เมื่อปีที่แล้ว และกำลังเริ่มปรากฏขึ้นอีกครั้ง เหรียญมีมที่ดึงดูดเงินทุนในวัฏจักรเหล่านี้ มักจะเป็นเหรียญที่มีรากฐานมาจาก ความเป็นมีม

Dogecoin (DOGE) ยังคงยืนหนึ่งในโลกเหรียญมีม เพราะมัน ไม่เคยเปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับ Pepe (PEPE) และ Fartcoin (FARTCOIN) เนื่องจากเหรียญเหล่านี้เป็นตัวแทนของ ความสนุกสนานอย่างแท้จริง 

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายสำหรับเหรียญเก่าเหล่านี้คือ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของพวกมันอาจจะผ่านไปแล้ว ซึ่ง DOGE ไม่ได้ทำจุดสูงสุดใหม่มานานกว่าสี่ปีแล้ว ในขณะที่ PEPE และ FARTCOIN ก็ใกล้จะครบรอบหนึ่งปี นับตั้งแต่ช่วงสูงสุดของราคา แม้พวกมันอาจจะยังไต่ระดับขึ้นได้อีก แต่การที่จะทะลุจุดสูงสุด เป็นเหรียญมีมมีมูลค่าตลาดอยู่ในช่วงหลักพันล้านดอลลาร์นั้นเป็นเรื่องที่ ยากขึ้นเรื่อย ๆ

นี่คือเหตุผลที่โทเคนอย่าง MAXI กำลังดึงดูดความสนใจมากขึ้น โดยราคามีโอกาสที่จะ พุ่งขึ้นแบบเดียวกับที่ DOGE, PEPE และ FARTCOIN กลายเป็นตำนานได้ 

ในขณะเดียวกันก็นำเสนอ ความสดใหม่ ซึ่งเข้าถึงกลุ่มนักลงทุนผู้กล้าบ้าบิ่น (Degen) กลุ่มใหม่ นั่นก็คือ ‘เหล่าขาใหญ่’ (the bros)

Maxi Doge ใช้แนวคิดแบบเน้นความแข็งแกร่ง เป็นพลังขับเคลื่อนในตลาดเหรียญมีม

แม้ว่า MAXI  จะถูกเปรียบเทียบกับ DOGE แต่มันมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างออกไป โดยสื่อสารกับ “เหล่าขาใหญ่” (the bros) โดยเฉพาะ เป็นคนกลุ่มที่ทุ่มเทให้กับการยกเหล็กหนัก ๆ, ดื่ม Red Bull ผสม Pre-workout อย่างเต็มที่, และใช้โปสเตอร์ Mr. Olympia ปี 1975 ของ Arnie เป็นแรงบันดาลใจ

คนเหล่านี้คือ กลุ่มเดียวกันที่ไม่เพียงแค่ต้องการเพิ่มน้ำหนักยกเป็น 1,000 เท่า แต่ยังต้องการเพิ่มกำไรจากการเทรดเป็น 1,000 เท่า จึงเหมือนกับการทุ่มสุดตัว แบบไม่มีข้อแก้ตัว

ทัศนคตินั้นคือ สิ่งที่ Maxi Doge รวบรวมไว้ทั้งหมด มันคือสุนัข Shiba Inu ที่ฟิตจัด มีดวงตาสีแดง ที่ก้าวออกจากเงามืดของ DOGE และพร้อมรับภารกิจที่จะไต่ขึ้นไปให้สูงขึ้น ของราคาในทุกรอบ

ตัวโปรเจกต์เองก็ถูกออกแบบโดยคำนึงถึงเป้าหมายนี้เช่นกัน โดยมีการจัดสรรเงินทุน 40% สำหรับการตลาด และอีก 25% ให้กับ Maxi Fund เพื่อสร้างพลวัตในการปั๊มราคา ทุกอย่างถูกจัดโครงสร้างเพื่อเพิ่มผลกำไร ทั้งด้านการเงินและกล้ามเนื้อไปพร้อม ๆ กัน

Source: https://maxidogetoken.com/

“เหล่าขาใหญ่” (the bros) ทุกคนที่มีดัมเบลอยู่ในมือข้างหนึ่ง และแอป Best Wallet อยู่ในมืออีกข้างหนึ่ง ถือเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมนี้ และวิธีที่จะเป็นตัวแทนของ Maxi นั้นง่ายมาก แค่เข้าร่วมกับโปรเจกต์ ก่อนที่ราคาจะพุ่งขึ้น

ยอดระดมทุน โปรเจกต์ MAXI อาจจะไปได้ถึง 3 ล้านดอลลาห์ ในสัปดาห์หน้า

เป้าหมายต่อไปคือ ยอดระดมทุน 3 ล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจจะช่วยผลักดันให้ราคาของ MAXI พุ่งสูงขึ้นไปอีก

เพื่อล็อกราคาไว้ในรอบปัจจุบันขณะที่ราคายังคงต่ำอยู่ สามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ของ Maxi Doge Token และเชื่อมต่อกระเป๋าเงิน Best Wallet ซึ่งเป็นหนึ่งในกระเป๋าเงินคริปโตและบิตคอยน์ที่ดีที่สุดที่มีอยู่ในปัจจุบัน

โดย Best Wallet นั้นใช้งานได้ฟรีและมีให้ดาวน์โหลดทั้งบน Google Play และ Apple App Store

ผู้ที่เข้าร่วมในการระดมทุนช่วงเริ่มต้น สามารถนำโทเคน MAXI ไป Staking ได้ทันทีผ่านโปรโตคอลหลัก โดยจะได้รับผลตอบแทน APY แบบไดนามิกถึง 133%

เพื่อเพิ่มความปลอดภัย สัญญา Smart contract ของ Maxi Doge ได้รับการตรวจสอบอย่างสมบูรณ์โดย Coinsult และ SOLIDProof แล้ว

สามารถเข้าร่วมกลุ่มได้ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X และ Telegram ของ Maxi Doge

หากสนใจโปรเจกต์สามารถเข้าไปศึกษา  Maxi Doge Token เพิ่มเติม ได้แล้ว

                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                  
เช็คลิสต์รายละเอียดสถานะ
1. เว็บไซต์ & Whitepaper โปรเจกต์มีเว็บไซต์ที่ดูน่าเชื่อถือ และมีเอกสาร Whitepaper ที่ระบุข้อมูลชัดเจนไม่กำกวม✔️
2. ความโปร่งใสของทีมงาน ทีมพัฒนามีการเปิดเผยตัวตนชัดเจนไม่ได้ปกปิดข้อมูลแต่อย่างใด
3. Tokenomics เหรียญมีการแจกแจงการปันส่วนที่สมเหตุผล และฝ่ายใดถือครองจนมากเกินไป✔️
4.Smart Contract Smart contract มีความโปร่งใสและถูกตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีการใส่โค้ดแอบแฝงเพื่อโจมตีนักลงทุน
5. มีกำหนดการชัดเจนโปรเจกต์มีการกำหนดวันสิ้นสุดการระดมทุนพรีเซล รวมถึงวันลิสต์เหรียญอย่างชัดเจน
6. ผู้ใช้สามารถถอนเงินได้กรณีเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดขึ้น นักลงทุนยังคงสามารถทำการถอนเงินคืนได้⚠️ (ไม่ชัดเจน)
7. คอมมูนิตี้ โปรเจกต์มีชุมชนคอยให้การสนับสนุนจริง ไม่ได้ถูกรันด้วยบอทเพียงอย่างเดียว ✔️
8. สภาพคล่อง โปรเจกต์มีการล็อกสภาพคล่องเพื่อระงับไม่ให้เกิดการ Rug pull ขึ้น
9. สัญญาณอันตราย โปรเจกต์ไม่มีสัญญาณอันตราย เช่น การระดมทุนจะสิ้นสุดเมื่อราคาถึงระดับ XXX เป็นต้น ⚠️ (ไม่ชัดเจน)
อ่านรายละเอียดเช็คลิสต์เพิ่มเติมได้ที่นี่

บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนคริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบและลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ท่านยอมรับได้ ทาง Siam Blockchain รวมถึงผู้บริหารและพนักงานของบริษัท ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบในทุกกรณีหากเกิดความเสียหายจากการลงทุนของท่าน

บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์