ในวันศุกร์นี้ (10 ตุลาคม) Bitcoin ยังคงมีการเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ ๆ ที่ระดับราคา $120,000 – $121,000 ซึ่งเป็นการพักตัวหลังเพิ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ไปได้เมื่อ นาน
แม้ราคาจะย่อตัวเพราะแรงเทขายจากนักลงทุนระยะสั้น และมีนักเทรดล้างถูกพอร์ตกันเป็นจำนวนไม้น้อย นักวิเคราะห์ยังคงเชื่อมั่นว่า “ตุลาขาขึ้น” ยังไม่จบ
Justin d’Anethan นักวิเคราะห์จาก Arctic Digital อธิบายว่า ปัจจุบันนักลงทุนระยะยาว (Long-term holders) แทบไม่มีการเคลื่อนไหวของอุปทาน ขณะที่กระแสเงินทุนไหลเข้ากองทุน Bitcoin ETF ยังคงแข็งแกร่ง และจำนวนเหรียญบนกระดานเทรดก็ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนถึงแรงขายที่มีจำกัดในตลาดตอนนี้
อย่างไรก็ตาม ตลาดในภาพรวมยังถูกขับเคลื่อนด้วยปัจจัยระดับมหภาคที่ไม่แน่นอน ทั้งจากการแข็งค่าของ ดอลลาร์สหรัฐฯ และความคลุมเครือของนโยบายจาก เฟด โดยเฉพาะในช่วงที่รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังอยู่ในภาวะชัตดาวน์ ทำให้ยากจะคาดเดาทิศทางเศรษฐกิจที่แท้จริงได้
d’Anethan มองว่า หากตัวเลขเงินเฟ้อเริ่มชะลอลง และเฟดมีท่าทีผ่อนคลายมากขึ้น ราคาของ Bitcoin อาจพุ่งทะยานต่อได้ไม่ยาก แต่ถึงแม้ปัจจัยเหล่านี้ยังไม่เกิดขึ้น ตลาดในตอนนี้ก็ถือว่ายังอยู่ใน “ภาวะสุขภาพดี” เพราะไม่มีการใช้เลเวอเรจเกินตัวเหมือนในรอบก่อน ๆ
ด้าน Vincent Liu ซีไอโอจาก Kronos Research เสริมว่า ตลาดขณะนี้มีทั้งฝั่งมองขึ้นและมองลงผสมกัน แต่ยังคงแสดงความแข็งแกร่งให้เห็น โดยเฉพาะจากการเข้าซื้อสะสมของนักลงทุนระยะยาว ซึ่งช่วยพยุงแนวโน้ม “Uptober” ให้ยังไม่จางหายไป และโครงสร้างกราฟขาขึ้นของ Bitcoin ก็ยังไม่เสียรูปแม้ราคาจะปรับฐานลงมา
ขณะเดียวกัน Min Jung จาก Presto Research มองว่า ตลาดในตอนนี้ยัง “ขาดข่าวดีและเรื่องเล่าใหม่ ๆ” ที่จะสร้างแรงกระตุ้นให้คึกคักขึ้นอีกครั้ง นักลงทุนส่วนใหญ่จึงยังอยู่ในโหมดรอคอยข้อมูลเศรษฐกิจ ตัวเลขเงินเฟ้อ และนโยบายจากเฟด ที่อาจเป็นตัวจุดประกายรอบใหม่ของตลาดคริปโตในอนาคต
ที่มา : The Block

