<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Coinbase ปะทะ Mastercard เตรียมปิดดีลพันล้านเทคโอเวอร์บริษัท Stablecoin

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

รายงานล่าสุดจากต่างประเทศเปิดเผยว่า Coinbase เว็บเทรดคริปโตชื่อดัง และ Mastercard ผู้ให้บริการด้านการชำระเงิน กำลังแข่งขันกันดุเดือดในการเข้าซื้อกิจการ  BVNK บริษัทฟินเทคด้านโครงสร้างพื้นฐาน Stablecoin ณ กรุงลอนดอน

อ้างอิงข้อมูลจาก Fortune บริษัททั้งสองต่างหมายปองที่จะครอบครอง BVNK ซึ่งถ้าหากปิดดีลสำเร็จมูลค่าของ BVNK จะมากถึง $1.5-$2.5 พันล้าน ซึ่งจะถือว่าเป็นดีลที่ใหญ่ยิ่งกว่าการเทคโอเวอร์บริษัท Bridge ที่มีมูลค่า $1.1 พันล้านจากทาง Stripe ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม 2024  

ปัจจุบัน การเจรจายังคงเต็มไปด้วยความดุเดือด และทั้งสองบริษัทยังไม่ได้บรรลุข้อตกลงสุดท้ายในปัจจุบัน โดยหากอ้างอิงจากเคสของ Stripe/Bridge แล้ว ข้อตกลงจะบรรลุผลน่าจะในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า

BVNK เป็นบริษัทอะไร?

BVNK เป็นบริษัทใหม่ที่เพิ่งก่อตั้งมาได้แค่ 4 ปี แต่พวกเขาได้ช่วยทำให้ภาคธุรกิจสามารถเข้ามาผนวกกับระบบการชำระเงินด้วย Stablecoin อย่างลื่นไหล รวมไปถึงการโอนเงินข้ามพรมแดน โดยเมื่อปีที่ผ่านมา BVNK สามารถระดมทุนได้ไปกว่า $50 ล้าน ในขณะที่มีมูลค่าตลาดประมาณ $750 ล้าน อีกทั้งยังสามารถดึง Visa มาเป็นพันธมิตรได้อีกด้วย

นักวิเคราะห์และผู้สังเกตการณ์ในตลาดต่างมองตรงกันว่า ความสนใจที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในธุรกิจ Stablecoin สะท้อนให้เห็นถึง “ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่” ของระบบการชำระเงินทั่วโลก และยังสะท้อนถึงมุมมองใหม่ที่ผู้คนเริ่มมีต่อ “เงินดิจิทัล” ในฐานะทางเลือกที่จับต้องได้มากขึ้นเรื่อย ๆ

สำหรับ Coinbase การเข้าซื้อกิจการ BVNK ถือเป็นอีกจิ๊กซอว์สำคัญที่ทำให้บริษัทสามารถ “ควบคุมได้ทั้งต้นน้ำและปลายน้ำ” ของธุรกิจ Stablecoin เพราะ Coinbase มีส่วนเกี่ยวข้องกับทั้งฝั่งการผลิต (ผ่าน Circle-USDC) และตอนนี้ยังขยายมาสู่ฝั่งการจัดจำหน่ายและการใช้งานจริง

ขณะที่ฝั่งของ Mastercard การเคลื่อนไหวในตลาด Stablecoin ครั้งนี้ถูกมองว่าเป็น “การป้องกันล่วงหน้า” เพื่อรักษาฐานธุรกิจของตนเอง ในวันที่ระบบการชำระเงินแบบดั้งเดิมอาจไม่จำเป็นต้องมีตัวกลางอีกต่อไป บริษัทจึงต้องเร่งหาพันธมิตรและเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาอยู่ในเครือ เพื่อปรับตัวให้ทันกับยุคที่ “เงินไหลโดยไม่ต้องผ่านธนาคาร”

ด้าน Brock Pierce หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Tether ( USDT) มองว่า อนาคตของโลกการเงินจะเปิดกว้างมากขึ้น และ “เงินเฟียตกับ Stablecoin จะสามารถอยู่ร่วมกันได้” แต่สิ่งที่จำเป็นที่สุดในตอนนี้ คือ หน่วยงานกำกับดูแลจะต้องเร่งออกกรอบกฎหมายที่ชัดเจน เพื่อผลักดันให้ Stablecoin ได้รับการยอมรับในระดับสากล 

ที่มา : Decrypt

ลิงก์ข่าวที่เกี่ยวข้อง