ท่ามกลางภาวะตลาดคริปโตที่ผันผวนอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Paolo Ardoino ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Tether ได้ออกมาเน้นย้ำถึง “ความยืดหยุ่นและความน่าเชื่อถือ” ของ Tether USDt (USDT) ในฐานะ Stablecoin ที่แข็งแกร่งที่สุดในตลาด หลังคู่แข่งสำคัญอย่าง USDe ของ Ethena Labs ต้องเผชิญวิกฤตหลุด peg ครั้งใหญ่
USDT ยังคงมั่นคง ขณะที่ USDe หลุด Peg อย่างรุนแรง
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลเผชิญแรงเทขายรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ อันเป็นผลมาจากการประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน 100% ของ Donald Trump เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ส่งผลให้ราคาของ USDe ซึ่งเป็น stablecoin สังเคราะห์ร่วงลงเหลือ 0.65 ดอลลาร์บน Binance
โครงสร้างของ USDe อิงกับอนุพันธ์และกลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ที่ซับซ้อน ต่างจาก USDT ของ Tether และ USD Coin (USDC) ของ Circle ซึ่งได้รับการสนับสนุนด้วยเงินสดและพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้ USDe เปราะบางต่อความผันผวนในตลาด
ในขณะที่ USDe หลุดตรึงราคา USDT กลับสามารถรักษาเสถียรภาพไว้ได้เกือบ 1 ดอลลาร์เต็ม และกลายเป็นสินทรัพย์หลักที่นักเทรดเลือกใช้เป็นหลักประกันในช่วงตลาดปั่นป่วน
CEO ขิง “USDT เป็นหลักประกันที่ดีที่สุด”
Ardoino ใช้โอกาสนี้โพสต์ข้อความผ่าน X ว่า
“USDT คือหลักประกันที่ดีที่สุดสำหรับการซื้อขายบนตลาดฟิวเจอร์และการใช้เป็น Margin”
เขายังเหน็บเชิงประชดถึงโทเค็นที่มีสภาพคล่องต่ำว่า ผู้ที่ถือสินทรัพย์ที่เปรียบเหมือน “กล้วย ม้า มะกอก 3 ลูก และหมากฝรั่ง” ควรเตรียมพร้อมรับมือความผันผวนในตลาด
Tether โชว์ความแข็งแกร่งเหนือคู่แข่ง
USDT มียอดหมุนเวียนในตลาดมากกว่า 1.79 แสนล้านดอลลาร์ และถือเป็นเสาหลักด้านสภาพคล่องของตลาดคริปโตมานานหลายปี เหตุการณ์ครั้งนี้ยิ่งตอกย้ำบทบาทของ Tether ในฐานะผู้นำตลาด Stablecoin หลังจากผ่านการตรวจสอบเงินสำรองและความโปร่งใสอย่างเข้มงวดในช่วงที่ผ่านมา
Ardoino กล่าวย้ำว่า ความแข็งแกร่งของ USDT มาจากการบริหารสินทรัพย์และสภาพคล่องที่สูง ซึ่งทำให้มันสามารถ “ผ่านการทดสอบจริงในสนามรบของตลาด” ได้ทุกครั้ง
Source: Paolo Ardoino

