<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

CZ เผย! Binance ยอมควัก 200 ล้านซื้อใจนักเทรดกลางวิกฤต จนกลายเป็นเบอร์หนึ่งของโลก

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Changpeng “CZ” Zhao อดีต CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Binance กระดานเทรดคริปโตที่มีวอลุ่มการเทรดมากที่สุดในโลก ล่าสุดได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวความสำเร็จของแพลตฟอร์มที่มีจุดเริ่มต้นเพียงแค่การกระทำง่าย ๆ แต่ไม่หมูอย่างที่คิด

โพสต์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงจังหวะเดียวกันกับการที่ Binance ประกาศเพิ่มเงินช่วยเหลือนักเทรดที่ประสบภัยอีกกว่า $400 ล้าน รวมเป็นเงินทั้งหมด $700 ล้าน ซึ่งกำลังเป็นที่พูดถึงกันในสื่อโซเซียล

CZ กล่าวว่า ย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 ในขณะที่ Binance เพิ่งตั้งไข่และเปิดตัวมาได้ไม่นาน ในขณะนั้นแพลตฟอร์มสามารถระดมทุนผ่านการ ICO ได้เงินมาจำนวน $15 ล้าน

อย่างไรก็ตาม 6 สัปดาห์หลังจากนั้น รัฐบาลจีนได้ประกาศแบนคริปโตและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ส่งผลทำให้โปรเจกต์ ICO ทั้งหมดต้องคืนเงินลงทุนแก่ลูกค้าเต็มจำนวนหากมีการร้องขอ

เหตุการณ์ในขณะนั้น ส่งผลทำให้ราคาโทเคนของโปรเจกต์อื่น ๆ จำนวน 4 ราย บนแพลตฟอร์ม Binance ล้วนแล้วแต่ร่วงลงต่ำกว่าราคา ICO แต่โชคยังดีที่ราคาของ BNB ยังไม่ร่วงลงไปถึงจุดนั้น แต่ก็ยังถือว่าหนักเอาเรื่อง เพราะจากกำไร 22x กลับลดลงเหลือเพียงแค่ 6x เท่านั้น ทำให้ยังไม่มีคนเรียกร้องขอเคลมเงินคืนกันเป็นจำนวนมาก 

เมื่อทราบดังนั้น พวกเขาจึงรีบคำนวนตัวเลขของโปรเจกต์ที่กล่าวมาว่าเสียหายไปเท่าไร ได้ตัวเลขออกมาเป็น $6 ล้านดอลลาร์ และทีมงานก็ได้เรียกประชุมว่าควรที่จะนำเงินของ Binance ไปอุดช่องว่างการขาดทุนตรงนี้ไหม 

CZ เปิดเผยว่าแม้ปัจจุบันเงิน $6 ล้านอาจดูไม่มาก แต่ในช่วงเวลานั้น Binance เพิ่งทำธุรกิจได้ไม่นาน กำไรก็ยังไม่เห็น แถมยังมีค่าใช้จ่ายอีกเป็นจำนวนมาก ถ้าหากตัดสินใจช่วยอุ้มโปรเจกต์เหล่านั้นจะต้องใช้เงินกว่า 40% ของคลังสินทรัพย์ทั้งหมดของ Binance ซึ่งหากมองตามหลักแล้ว Binance ไม่จำเป็นจะต้องชดใช้ก็ได้เพราะไม่ใช่โปรเจกต์ของตนเอง และไม่ใช่หน้าที่ของพวกเขาที่จะต้องรับผิดชอบ

แต่สิ่งที่ทำให้โชคชะตาของ Binance เปลี่ยนไปตลอดกาลคือ การตัดสินใจครั้งนั้นของ CZ เขาเข้าประชุมระหว่างเดินทางอยู่บนรถไฟในกรุงโตเกียวและกล่าวเพียงแค่ว่า “มีใครคัดค้านไหม” ผลคือไม่มีใครคัดค้านและเริ่มทำการชดเชยเงินคืนให้กับนักลงทุน

การตัดสินใจดังกล่าวได้เสียงตอบรับอย่างดีจากชุมชนคริปโตทั่วทั้งโลก เพราะไม่มีบริษัทใดในขณะนั้นที่กล้าพอที่จะปกป้องผู้ใช้งานมากถึงขนาดนี้ นั่นเองจึงทำให้ผู้ใช้งาน Binance เติบโตอย่างก้าวกระโดดจาก 35,000 ราย กลายเป็น 120,000 ราย ภายในเดือนเดียว และแพลตฟอร์มก็สามารถกลับมาทำกำไรได้อีกครั้ง นับแต่นั้นเป็นต้นมา

กลายเป็นว่า 2 เดือนให้หลัง จากการทุ่มเงิน $6 ล้านในครั้งนั้น Binance ได้พลิกกลายมาเป็นกระดานเทรดคริปโตอันดับหนึ่งของโลก และยังคงรักษาตำแหน่งนี้ไว้ได้จวบจนถึงปัจจุบัน 

ลิงก์ข่าวที่เกี่ยวข้อง