เมื่อวานนี้ (15 ต.ค.) ได้เกิดเหตุการณ์โกลาหลครั้งใหญ่ขึ้นในประเทศกัมพูชา หลังลูกค้าจำนวนมากของ Prince Bank รายงานว่าประสบปัญหาไม่สามารถเข้าถึงบัญชีเงินฝากของตนผ่านแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ของธนาคารได้
ธนาคารแห่งนี้อยู่ในเครือ Prince Group ของนาย “เฉิน จื้อ” คนสนิทของฮุนเซน ผู้ที่กำลังตกเป็นข่าวดังในทั่วโลก หลังรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่งประกาศคว่ำบาตรและอายัดทรัพย์สินมูลค่ามหาศาล โดยเฉพาะ Bitcoin จากข้อกล่าวหาว่า เขามีส่วนพัวพันกับเครือข่ายหลอกลงทุนคริปโตและฟอกเงินข้ามชาติ
ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน เวลา 14.15 น. Prince Bank ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเพจ Facebook ทางการ เพื่อยืนยันว่า “บริการทางการเงินทุกประเภท ทั้งสาขา ตู้ ATM และแพลตฟอร์มดิจิทัล ยังคงดำเนินงานได้ตามปกติ”
ทว่าเพียง 10 นาที หลังจากนั้น ลูกค้าหลายร้อยรายกลับรายงานบนโซเชียลมีเดียว่า ไม่สามารถโอนเงินหรือเช็กยอดบัญชีได้ บางรายระบุว่า ปัญหาเกิดขึ้นมาตั้งแต่วันก่อนหน้าแล้ว บางรายถึงขั้นเรียกร้องให้รีบถอนเงินก่อนจะสายเกินไป
ความวุ่นวายนี้ ได้นำไปสู่การกระทำที่สร้างความสงสัยอย่างหนัก เมื่อมีรายงานล่าสุดระบุว่า Prince Bank ได้ตัดสินใจ “ปิดเพจ Facebook” ของธนาคารหนีไปแล้ว ทำให้ลูกค้าสูญเสียช่องทางหลักในการสื่อสารกับธนาคารโดยสิ้นเชิง

สถานการณ์เหล่านี้ เกิดขึ้นหลังจากที่สหรัฐฯ ได้ทำการยึดทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลจาก “เฉิน จื้อ” ผู้ก่อตั้ง Prince Group โดยสหรัฐฯ ได้ทำการยึด Bitcoin ไว้กว่า 127,000 BTC คิดเป็นมูลค่าราว 4.9 แสนล้านบาท
ในขณะที่ทางสหราชอาณาจักร (UK) ก็ร่วมลงดาบอายัดทรัพย์สินของแก๊งนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งรวมถึงบ้านหรู 19 แห่งในลอนดอน หนึ่งในนั้นมีมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท
รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ เยฟตี้ คูเปอร์ กล่าวว่า “ผู้อยู่เบื้องหลังศูนย์หลอกลวงเหล่านี้ กำลังทำลายชีวิตของผู้คนบริสุทธิ์ และนำเงินสกปรกมาซื้อบ้านในลอนดอน เราจะร่วมมือกับสหรัฐฯ เพื่อกวาดล้างเครือข่ายนี้ให้หมดสิ้น”
ที่มา:Kiripost
