งาน Bitkub Summit 2025: Gateway to the Future ที่จัดไปเมื่อวันที่ 25-26 ตุลาคม ถือเป็นอีเวนต์ใหญ่ที่ Bitkub ได้ประกาศวิสัยทัศน์และอัปเดตครั้งสำคัญเกี่ยวกับทิศทางในอนาคต ซึ่งอัดแน่นไปด้วยสาระและข่าวอัปเดตใหม่ ๆ มากมาย
บทความนี้เราได้สรุปข้อมูลทั้งหมดมาให้แล้ว ทั้งการยกระดับแพลตฟอร์ม Bitkub และทิศทางในอนาคตของเหรียญ KUB
กระดานเทรด Bitkub จะมีอะไรใหม่ ?

สำหรับความเคลื่อนไหวฝั่งกระดานเทรด Bitkub Exchange ได้มีการเปิดเผยโร้ดแมปของอัปเดตใหม่ ๆ ที่กำลังจะตามมา ได้แก่ :
- Auto DCA: ฟีเจอร์นี้จะทำให้นักลงทุนสามารถตั้งค่าให้ทยอยลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีได้แบบอัตโนมัติ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลากดซื้อขายด้วยตัวเอง
- ฟีเจอร์ PNL: จะมีการเพิ่มตัวเลขกำไร/ขาดทุน (Profit and Loss) ให้เห็นอย่างชัดเจน ว่าลงทุนไปเท่าไร และได้กำไรหรือขาดทุนเท่าไร ทำให้สามารถบริหารจัดการการลงทุนได้ละเอียดยิ่งขึ้น
- Mega Launch: เป็นโครงการที่จะทำให้คนไทยสามารถเข้าถึงการซื้อขายเหรียญมีม (Memecoin) หรือเหรียญที่กำลังเป็นที่นิยมได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งคาดว่าจะมีรูปแบบคล้ายกับ Launchpad โดยตั้งเป้าจะลิสต์เหรียญใหม่กว่า 50 สกุล ในอนาคตอันใกล้
- ตลาดคริปโทฟิวเจอร์ส : Bitkub เตรียมเปิดตลาดซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures) ในไทย เพื่อให้สอดคล้องกับกระดานเทรดชั้นนำระดับโลก และคาดว่าจะเป็นครั้งแรกที่ตลาดคริปโทไทยจะได้ใช้เครื่องมือการลงทุนแบบมีเลเวอเรจ
- การเสนอขาย G-Token: Bitkub เตรียมนำเสนอขาย G-Token ซึ่งเป็นโทเคนที่ออกและกำหนดลักษณะโดยกระทรวงการคลังและสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ในเร็ว ๆ นี้
- Bitkub Big Lot: เพิ่มบริการพิเศษสำหรับนักลงทุนรายใหญ่ที่ต้องการซื้อขายในปริมาณ (Volume) สูงโดยเฉพาะ
กระเป๋าเงิน Bitkub รีแบรนด์
ถัดมาทางด้าน Bitkub NEXT ได้มีการรีแบรนด์ตัวเองเป็น KUB Wallet เพื่อให้ตัวแอปและระบบนิเวศมีความเป็นสากลมากขึ้น และรองรับหลายเชน นอกจากนี้ทาง Bitkub ยังได้มีการขอยื่น e-money license เพื่อสามารถเป็น Wallet ที่สแกนใช้จ่ายได้เหมือนแอปพลิเคชัน เป๋าตังค์ เพื่อเป็นการสร้างประโยชน์ใช้สอยและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้
KUB Chain

ในส่วนของ KUB Chain มีจะมีความเคลื่อนไหวทั้งในฝั่งของตัวเครือข่าย และ ผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะประกอบไปด้วยประเด็นน่าสนใจดังนี้ :
- ลดระยะเวลาบล็อกและเพิ่มขนาดบล็อก: ทีมงานมีแผนลดระยะเวลาการสร้างบล็อกลง เพื่อให้การทำธุรกรรมรวดเร็วและลื่นไหลยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 3 วินาที และมีการปรับขนาดบล็อกให้ใหญ่ขึ้นด้วย
- เชื่อมต่อกับ JFIN และ SIX: เตรียมเชื่อมต่อ (Bridge) กับบล็อกเชนชั้นนำของไทยอย่าง JFIN และ SIX เพื่อให้การทำธุรกรรมข้ามเครือข่ายเป็นไปได้ง่ายและลดรอยต่อของระบบนิเวศในประเทศ
- รองรับมาตรฐาน Ethereum และ Solidity ใหม่: เตรียมซัพพอร์ตมาตรฐานสำคัญของ Ethereum อย่าง EIP-7702 และ EIP-1559 รวมถึงภาษา Solidity เวอร์ชันใหม่ล่าสุด รวมถึงมีการประกาศตั้ง KUB Layer 2
- นำ Stablecoin เข้าสู่ KUB Chain: จะมีการ Bridge Stablecoin สกุลใหญ่อย่าง USDC และ USDT เข้ามาบน KUB Chain ด้วยมาตรฐาน ERC20 โดยผู้ใช้สามารถโอน Stablecoin เหล่านี้ไปยัง Bitkub Exchange ได้แบบ ไม่มีค่าธรรมเนียม
- ตัวอย่าง Carbon Credit Tokenization: เปิดตัวตัวอย่างการแปลงสิทธิ์การปล่อยคาร์บอน (Carbon Credit) ให้เป็นโทเคนบนบล็อกเชน KUB Chain
- DeFi บน KUB Chain: เล็งเปิดแพลตฟอร์ม Decentralized Exchange (DEX) สำหรับการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบไม่มีวันหมดอายุ (Perpetual DEX) และบริการให้ยืม/กู้ยืม (Lending) บนเครือข่าย KUB Chain
- เปิดตัว KUB Foundation ในสวิตเซอร์แลนด์: ประกาศจัดตั้ง KUB Foundation ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งคาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลและผลักดันการเติบโตของ KUB Chain ในระดับสากล
KUB Coin
นอกจากความเคลื่อนไหวทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ข่าวสารสุดท้ายที่สร้างความฮือฮาให้กับเหรียญ KUB Coin ซึ่งเป็นเหรียญคริปโตขวัญใจนักลงทุนชาวไทย เลยก็คือแผนการ “เผาเหรียญ” (Burn) ที่กำลังจะเกิดขึ้นบนเครือข่าย โดยการเผาเหรียญครั้งนี้จะนำค่าธรรมเนียมการเทรดบางส่วนมาทำลายทิ้ง ส่งผลให้จำนวนอุปทาน (Supply) ของเหรียญ KUB ในตลาดลดลง ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญที่เข้ามาเสริมการใช้งานของ KUB ที่กำลังจะขยายตัวสู่ตลาดสากลตามทิศทางการพัฒนาของ KUB Chain นั่นเอง
การลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีมีความเสี่ยงและอาจสูญเงินได้ทั้งจำนวน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและยอมรับความเสี่ยงก่อนเริ่มการลงทุน

