ราคา Bitcoin (BTC) กำลังดูไม่สู้ดีนักในช่วงนี้ ล่าสุด Glassnode บริษัทวิเคราะห์ข้อมูล On-chain ชื่อดัง ได้ออกมาเตือนว่า Bitcoin กำลังดิ้นรนอย่างหนักที่จะกลับไปยืนเหนือแนวรับจิตวิทยาสำคัญที่ 113,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งระดับนี้คือ “ต้นทุนเฉลี่ย” ของผู้ถือระยะสั้น (Short-Term Holder Cost Basis) หรือนักลงทุนที่เพิ่งเข้ามาในตลาดช่วง 155 วันที่ผ่านมา
การยืนเหนือระดับนี้ให้ได้ถือเป็นหัวใจสำคัญในการรักษาแนวโน้มตลาดกระทิง แต่การที่ Bitcoin พยายามหลายครั้งแล้วยังไม่สามารถทะลุผ่านไปได้ กำลังบ่งชี้ถึงโมเมนตัมที่อ่อนแรงลง

เป้าหมายถัดไป $88,000?
Glassnode เตือนว่า หากราคาหลุดแนวรับ $113K (ต้นทุนเฉลี่ยรายย่อย) ลงไปจริงๆ ตลาดอาจได้เห็นการปรับฐานที่ลึกกว่าที่คิด โดยเป้าหมายต่อไปอาจจะอยู่ที่ $88,000 ซึ่งเป็น “ราคารับรู้ของนักลงทุนที่ยังเคลื่อนไหว” (Active Investors’ Realized Price) ระดับนี้ถือเป็นแนวรับที่แข็งแกร่งมาก และเกือบจะถูกทดสอบมาแล้วครั้งหนึ่งในช่วงการปรับฐาน “Tariff Tantrum” เมื่อเดือนเมษายน 2025
สัญญาณอันตราย ‘รายย่อย’ ยอมคัทลอส-‘รายใหญ่’ เริ่มเทขาย
รายงานของ Glassnode ชี้ว่าความเชื่อมั่นของนักลงทุนกำลัง “เปราะบาง” อย่างเห็นได้ชัด
- ผู้ถือระยะสั้น (STH) กำลังเริ่ม “ยอมขายขาดทุน” โดยดัชนี STH-NUPL (กำไร/ขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง) อยู่ที่ –0.05 ซึ่งบ่งชี้ว่ากลุ่มคนที่เพิ่งเข้ามาซื้อกำลังตกอยู่ในภาวะขาดทุนเล็กน้อย
- ผู้ถือระยะยาว (LTH) ที่น่ากังวลกว่าคือ กลุ่มผู้ถือระยะยาวที่เปรียบเสมือน “กระดูกสันหลัง” ของตลาด ก็เริ่ม “เทขาย” (Distribution) เช่นกัน โดยในเดือนนี้ LTH ได้ขาย Bitcoin ออกไปแล้วถึง 104,000 BTC ถือเป็นการเทขายครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม Glassnode ตั้งข้อสังเกตว่า ตราบใดที่ LTH ยังไม่กลับมาเป็นฝ่าย “สะสม” เหรียญ การฟื้นตัวของราคาก็ยังคงเกิดขึ้นได้ยาก

ตลาดฟิวเจอร์สเริ่มนิ่ง-แต่ความเชื่อมั่นยังไม่กลับมา
ในข่าวดีเล็กน้อย ตลาดตราสารอนุพันธ์ (Derivatives) ดูเหมือนจะสงบลงแล้วหลังจากเหตุการณ์ล้างพอร์ตครั้งใหญ่ในเดือนตุลาคม ความผันผวนได้ลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 43% และนักเทรดได้ลดการป้องกันความเสี่ยงขาลง (Downside Hedges) ลงแล้ว
Glassnode สรุปว่าตลาด Bitcoin กำลังเปลี่ยนเข้าสู่ “ระยะพักตัว” (Consolidation) อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นและอุปสงค์เชิงโครงสร้างยังคง “เปราะบาง” (Fragile) ซึ่งหมายความว่าแม้ภาวะตื่นตระหนกสุดขีดอาจจะผ่านไปแล้ว แต่การฟื้นตัวที่แท้จริงยังคงต้องรอ “ความเชื่อมั่น” ครั้งใหม่จากนักลงทุน
ที่มา: glassnode

