Ethereum ปัจจุบันได้ประสบกับขาลงรุนแรงในปัจจุบัน แต่นอกเหนือจากราคาที่พ่ายแพ้แล้วตัวของ Vitalik Buterin ยังได้ออกมาซ้ำเติมตลาดอันบอบช้ำด้วยการยืนยันว่าเครือข่ายของเขามีปัญหาจริง
Buterin กล่าวบน X ว่า modexp precompile ที่ใช้ในปัจจุบันกำลังสร้างปัญหาให้กับประสิทธิภาพของการ ZK-proof ส่งผลทำให้การปรับขนาดของ Ethereum ถูกชะงักลง
[Modexp Precompile: เป็นโค้ดที่ถูกฝังไว้ล่วงหน้าใน Ethereum Virtual Machine (EVM) เพื่อดำเนินการคำนวณทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการดำเนินการ modular exponentiation ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่ใช้บ่อยในการเข้ารหัสที่ซับซ้อน เช่น ZK-proofs]
เขายังกล่าวอีกว่า ด้วยการที่ตัวเขาเองเป็นผู้สร้าง modexp ขึ้นมา เขาจึงขอยอมรับความอับอายครั้งนี้ เพราะมันแย่กว่าบล็อกทั่วไปได้ถึง 50 เท่าตัว และความไร้ประสิทธิภาพของมันได้กลายเป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าจะมองข้าม
การตอบสนองของชุมชนนั้นแสนจะเรียบง่าย และกล่าวว่านี่คือการเสียเวลาทางวิศวกรรมโดยเปล่าประโยชน์ และการแก้ไข modexp มีความสำคัญมากกว่าการบีบอัดประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจากส่วนอื่นๆ”
ดังที่ผู้ใช้รายหนึ่งกล่าวไว้ว่า: สมเหตุสมผลแล้ว ว่าทำไมค่าเสียโอกาส (opportunity cost) ในการปรับปรุง Opcodes ที่ไม่เป็นที่รู้จักนั้นสูงมาก เมื่อเทียบกับการปรับปรุง เลเยอร์หลักของการปรับขนาดเครือข่าย เรื่องนี้มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากหาก การสร้าง ZK-proof ยังคงช้าอยู่ การปรับขนาดเครือข่ายของ Ethereum ก็จะหยุดชะงักลง
นอกเหนือจากปัญหาภายในเครือข่ายแล้ว เมื่อวานนี้กองทุน ETH ETF ยังมีเงินไหลออกกว่า $135.7 ล้าน โดย BlackRock ได้เทขายกว่า $81.7 ล้าน เพื่อลดการถือครอง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในวันที่มีเงินไหลออกมากที่สุดเช่นกัน
ขณะเดียวกัน Ethereum ก็กำลังเผชิญกับสภาวะขาลงอย่างรุนแรง เนื่องจากกราฟทางเทคนิคเริ่มเสียทรงขาขึ้น โดยในขณะรายงาน ETH มีการซื้อขายอยู่ที่ประมาณ $3,339 ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากจุดต่ำสุดระหว่างวัน
ที่มา : AMB Crypto