<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

รีวิว ‘dGEN1’ มือถือ + Wallet คริปโตครบจบในเครื่องเดียว ต่างจากสมาร์ทโฟนแบบปกติยังไง?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในช่วงปีที่ผ่านมา ตลาดสมาร์ตโฟนที่มาพร้อมฟังก์ชันกระเป๋าเงินคริปโต (Crypto Wallet Phone) ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะจากการเปิดตัวรุ่น Saga และ Seeker ของฝั่ง Solana ทว่าปัจจุบัน ฝั่ง Ethereum ก็ไม่ยอมน้อยหน้า ได้มีการพัฒนาระบบปฏิบัติการ “ethOS” ขึ้นมาโดยเฉพาะ พร้อมเปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุด dGEN 1 by Freedom Factory สู่สมรภูมิ Web3

และบทความนี้สยามบล็อกเชนจะพาผู้อ่านมารีวิวเจาะลึกโทรศัพท์รุ่นนี้ เพื่อค้นหาความพิเศษและฟีเจอร์เด่นที่ทำให้ dGEN 1 กลายเป็นเครื่องมือที่น่าจับตามองสำหรับชาวคริปโต 

สเปคเครื่อง

  • CPU : MediaTek Helio G99 
  • ความจำ : RAM 8GB + ความจุ 256GB 
  • หน้าจอ : 3.95″ LCD และ 1.71”
  • กล้องหลัง : 48MP + flash
  • แบตเตอรี่ : 4500mAh quick charge พอร์ต USB-C
  • รองรับ : 4G, Bluetooth, WiFi5, GPS , NFC , สแกนลายนิ้วมือ , ซิมการ์ด
  • ระบบปฏิบัติการ : ethOS  พัฒนาจาก LineageOS (ซึ่งเป็น Android 15 AOSP)
  • ราคาตั้งขาย : $549 (~18,000 บาท)

วิเคราะห์สเปค

ตัวสเปคเครื่องที่ให้มาในระดับราคานี้ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ชิป CPU สามารถใช้งานทั่วไปได้ลื่นไหล และหน่วยความจำก็มีมากพอ เช่นเดียวกับแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องชาร์จ แต่มีข้อเสียคือหน้าจอที่เล็ก ประกอบกับการที่ไม่รองรับ 5G ในระดับราคานี้

ส่วนจุดเด่นเรื่อง ethOS จะชูเรื่องของความปลอดภัยขณะใช้งาน ในขณะที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ใหม่ทั้งหมด เพราะยังอิงระบบส่วนใหญ่มาจาก Android ไว้หมด

มีอะไรแถมมาให้บ้าง?

ภายในชุดจะประกอบไปด้วย :

  • โทรศัพท์ dGEN 1
  • กล่องกันกระแทก
  • ซองหนัง
  • สายชาร์จ
  • หูฟังแบบสาย
  • คู่มือการใช้งาน
  • บัตรสำหรับกู้คืนรหัส (Recovery Card)

เริ่มต้นการใช้งาน

ตอนแรกที่เปิดเครื่องเราจะต้องทำการตั้งค่าและตั้งรหัส ซึ่งเมื่อตั้งเสร็จเราจะไปพบกับหน้าจอล็อกที่เป็น หน้าจอหลักของอุปกรณ์แสดงข้อมูลที่มีลักษณะคล้ายกับ มาตรวัดในห้องนักบินซึ่งประกอบไปด้วย ระดับความสูง ความเร็วลม และ แรงโน้มถ่วง

ขณะเดียวกันแถบจอด้านล่างจะแสดงสถานะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เวลา,สัญญาณ,ไวไฟ หรือ แบตเตอรี่

ส่วน UI ของหน้าเมนูหลักจะมาแบบเรียบง่าย ไม่มีไอคอนใดๆทั้งสิ้นมีเพียงแค่ตัวหนังสือแทน shortcut ในการเข้าแอปต่างๆ ซึ่งภายในเครื่องจะมีแอป build in เฉพาะตัวแถมมาให้ด้วย และวิธีการใช้ก็ทำแค่เพียงไถขึ้นลง ส่วนการย้อนกลับไปหน้าหลักทำโดยการปัดซ้าย

แอปเบื้องต้นที่แถมมาให้

นาฬิากาปลุก , เครื่องคิดเลข , ปฏิทิน , กล้อง , รายชื่อติดต่อ ,  บราวเซอร์ Firefox , Gallery ภาพ , โน้ต , Play Store , Stopwatch-Timer

Chad แอป AI ผู้ช่วย

สำหรับแอปพิเศษที่มีการติดตั้งมาให้เริ่มต้นกันด้วย CHAD ซึ่งเป็นเหมือนกับเอไอผู้ช่วยของโทรศัพท์ แต่แทนที่มันจะเน้นในการถามตอบเหมือน ChatGPT ตัวของ CHAD จะมุ่งไปยังการบริหารกระเป๋าเงินของเรามากกว่า ซึ่งมันสามารถออกคำสั่งรับส่ง หรือตรวจสอบยอดเงินคงเหลือ และอื่น ๆ ได้

dGEN App Store

แอปที่สองที่ให้มาคือ dGEN App Store (รูปซ้าย) จะเห็นได้ว่าเป็นแหล่งรวบรวมแอปที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซี ไม่ว่าจะเป็น Aave ( DeFi) OpenSea ( NFT) รวมไปถึงโซเชียลและเกมต่างๆ 

ขณะเดียวกัน Google Play Store (รูปขวา) ก็ยังมีให้บริการตามปกติ ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถติดตั้งแอปพลิเคชันมาลงในเครื่องเพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเป็นแอปหรือเกม 

Wallet

ถัดมาคือ ฟีเจอร์หลักของเครื่องกับจุดขาย “Hardest Hardware Wallet in the World” ซึ่งในแอปก็เหมือนกับกระเป๋าทั่วไปคือมี QR Code รับเงิน มีให้กด Swap ที่จะเปิดหน้าต่าง Uniswap ขึ้นมาให้โดยอัตโนมัติ และฟังก์ชัน Gas ที่เป็นการเติมค่าแก๊ซเข้ากระเป๋าผ่านระบบ Paymaster ที่ทำให้ใช้งานได้ทุกเชนที่รองรับโดยไม่ต้องทำการ Bridge

ความสุดยอดของกระเป๋านั้นแอบซ่อนอยู่ภายใน นั่นคือ  first account-abstracted EOA (AA-EOA) wallet ที่ทางผู้พัฒนารับประกันว่าปลอดภัยกว่ากระเป๋า Wallet ธรรมดาทั่วไปอย่างแน่นอน ซึ่งจะฟีเจอร์นี้จะช่วยให้คีย์ของผู้ใช้ปราศจากสิ่งแปลกปลอมที่จ้องแทรกซึมเข้ามา

เปรียบเทียบ dGEN 1 กับคู่แข่ง

โดยรวมแล้ว  dGEN 1 เป็น Hardware Wallet ที่โทรออกได้ ในขณะที่ Saga/Seeker เป็นสมาร์ตโฟนที่มี Wallet ในตัว

สรุปความเห็นจากการทดลองใช้

ตามความเห็นของผู้เขียน การใช้งาน dGEN 1 ไม่ต่างอะไรไปกว่าการใช้โทรศัพท์ Android ทั่วไป เพียงแต่ว่าขนาดของจอที่เล็กทำให้ใช้งานได้ไม่สะดวกเท่าโทรศัพท์ทั่วไปในกิจกรรมอื่นๆ เช่น เล่นอินเทอร์เน็ต, เล่นโซเชียล, Youtube หรือเล่นเกม ที่ถึงแม้จะลื่นไหล (ถ้าเกมไม่กินเครื่อง) แต่มีข้อจำกัดด้วยขนาดของจอที่เน้นไปในการใช้งานแนวตั้งเท่านั้น

ส่วนทางด้านฟังก์ชันพิเศษของคริปโตนั้นถือว่าทำออกมาได้ตรงตามมาตรฐาน ทำให้อุปกรณ์ชิ้นนี้อาจเหมาะกับการใช้งานในรูปแบบของ Hardware Wallet มากกว่าที่จะเป็นโทรศัพท์มือถือ

ข้อดี – ข้อเสีย สรุป

ข้อดี

  • ขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก
  • ใช้งานได้นาน (แบตอึด)
  • เหมาะสำหรับผู้ใช้เฉพาะทาง
  • มีฟีเจอร์เน้นความปลอดภัยสูง
  • ดีไซน์แปลกตา ไม่เหมือนใคร

ข้อเสีย

  • ไม่ค่อยเหมาะกับการใช้งานในเชิงการเป็นโทรศัพท์เครื่องหลัก
  • ถือว่าหนักเมื่อเทียบกับขนาด
  • ราคาค่อนข้างสูง ($549)
  • หน้าจอเล็ก ไม่เหมาะกับ Multimedia
  • ไม่มี 5G
  • ซื้อในไทยยาก ต้องสั่งจากต่างประเทศ

คำแนะนำสุดท้าย: ควรซื้อหรือไม่?

ควรซื้อ ถ้าคุณ…

  • มี Portfolio คริปโตมูลค่าสูง
  • เป็นนักเทรด DeFi หรือนักสะสม NFT 
  • ต้องการความปลอดภัยขั้นสูงสุด
  • มีโทรศัพท์เครื่องหลักอยู่แล้ว
  • อยากสนับสนุน Ethereum Ecosystem

ไม่ควรซื้อ ถ้าคุณ…

  • เพิ่งเริ่มต้นในวงการคริปโต
  • ต้องการใช้เป็นเครื่องหลัก
  • งบจำกัด (ควรซื้อ Hardware Wallet ราคาถูกก่อน)
  • ไม่ได้ทำธุรกรรมบ่อย

บทความนี้เป็นเพียงการนำเสนอมุมมองและข้อเท็จจริงของผลิตภัณฑ์เพียงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาเชิญชวนให้ซื้อขาย หรือลงทุนในผลิตภัณฑ์ใดๆ แต่อย่างใด