ราคา Solana (SOL) ร่วงลง 6% มาซื้อขายแถว $158 หลังจากเพิ่งพุ่งไปทดสอบ $172 เมื่อวันจันทร์
การร่วงลงครั้งนี้เป็นการ ร่วงตามตลาดหุ้น Nasdaq ที่ถูกกดดันอย่างหนักจาก 2 ข่าวร้าย
- CoreWeave (CRWV) บริษัท AI Cloud ที่เคยเป็นดาวรุ่ง ประกาศ “หั่น” คาดการณ์รายได้
- มีรายงานว่าจีนวางแผนที่จะ “แบน” กองทัพสหรัฐฯ ไม่ให้เข้าถึง “แร่หายาก” (Rare-earth Minerals) ซึ่งเป็นชนวนใหม่ของสงครามการค้า
คำถามคือ ในเมื่อปัจจัยภายนอกรุมเร้าขนาดนี้ โอกาสที่ SOL จะกลับไป $250 ยังมีอยู่หรือไม่?

“สวนทาง” ตลาด พื้นฐานแน่น แต่ราคาร่วง
ที่น่าแปลกคือ ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา SOL กลับมีประสิทธิภาพ “แย่กว่า” (Underperform) ตลาด Altcoin โดยรวมถึง 7%
ทั้งๆ ที่ปัจจัยพื้นฐานดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัว Spot Solana ETF ในสหรัฐฯ หรือกิจกรรมบนเครือข่าย (On-chain Activity) ที่พุ่งสูงขึ้นมาก
ข้อมูล On-chain 30 วันล่าสุด “ชนะขาด”
- Solana Active Address +10% / ธุรกรรม +8%
- Ethereum (คู่แข่ง) Active Address -5% / ธุรกรรม -26%
- Hyperliquid (DEX) กิจกรรม On-chain -28%
นอกจากนี้ Solana ยังคง “ครองแชมป์” รายได้จาก DApps แบบทิ้งห่างเครือข่ายอื่น

การจัดอันดับบล็อกเชน ตามค่าธรรมเนียม (Fees) ในรอบ 30 วัน ที่มา: NansenTVL พุ่ง-ไม่ได้พึ่งแค่ “Memecoin”
Total Value Locked (TVL) หรือมูลค่าสินทรัพย์ที่ล็อกไว้บน Solana ปัจจุบันอยู่ที่ 12,000 ล้านดอลลาร์ “ทิ้งห่าง” BNB Chain (ที่ 8,000 ล้านดอลลาร์)
การเติบโตนี้ยัง “กระจายตัว” (Diversified) มากขึ้น ไม่ได้พึ่งแค่กระแส Memecoin (ที่ซาไปตั้งแต่เดือนมีนาคม) โดยมีโปรเจกต์หลากหลายกลุ่มที่เติบโตแรง เช่น
- Securitize (กลุ่ม Real World Assets) +35%
- Solstice USX (กลุ่ม Basis Trading) +31%
- Meteora (กลุ่ม Liquidity Pools) +10%

รายได้ DApp ในรอบ 30 วัน (USD) แบ่งตามเชน ที่มา: DefiLlamaแล้วอะไร “กด” ราคาไว้?
แม้ราคาจะฟื้นตัวจากจุดต่ำสุด $95 มาได้ แต่นักเทรดก็ยัง “ไม่กล้า” ไล่ราคา
แม้ว่า Spot Solana ETF (ที่เปิดตัว 28 ต.ค.) จะดูดเงินไหลเข้าสุทธิไปแล้ว 343 ล้านดอลลาร์ (บวกกับ REX-Osprey ETF อีก 286 ล้านดอลลาร์)
แต่ผลบวกมหาศาลนี้กลับถูก “หักล้าง” (Partly offset) ด้วยแรง “เทขาย” จาก “บริษัท” (Corporate holdings) ที่ถือ SOL ไว้จำนวนมากและเริ่ม “ทยอยลดการถือครอง” (เทขาย) ออกมา
ตัวอย่างเช่น การเทขาย 439,621 SOL ของ Galaxy Digital (GLXY) (แม้ว่าก่อนหน้านี้ในเดือน ก.ย. Galaxy จะเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ก็ตาม) ได้สร้างความกังวลว่า “วาฬ” อาจจะยังเทขายไม่จบ
ในขณะที่ “วาฬ” ที่ถือครอง SOL มากที่สุดคือ Forward Industries (FORD) ที่ 6.82 ล้าน SOL ยังคง “ถือนิ่ง” (Steady) ตลอด 30 วันที่ผ่านมา

จะไป $250? ต้องลุ้น 2 ปัจจัยภายนอก
โดยสรุป “พื้นฐาน” ของ Solana ยังคงแข็งแกร่งมาก แต่การจะกลับไปสู่ $250 ในระยะสั้นนี้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายในของ SOL เพียงอย่างเดียว
แต่ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย “ภายนอก” ล้วนๆ
- ความเสี่ยงใน “ภาคส่วน AI” (ที่กำลังดึง Nasdaq) ต้องลดลง
- “สงครามการค้า” (Geopolitical Tensions) ที่ตึงเครียด ต้องคลี่คลายลง

ที่มา: cointelegraph

