ภาคธุรกิจ Crypto Treasury หรือบริษัทมหาชนที่ถือคริปโตปริมาณมหาศาล กำลังเผชิญกับแรงกดดันครั้งใหญ่ หลัง MSCI ผู้ให้บริการดัชนีระดับโลกเริ่มพิจารณาเกณฑ์ใหม่ที่อาจลากบริษัทกลุ่มนี้ออกจากดัชนีสำคัญจำนวนมาก
ผลลัพธ์ คือ มูลค่าตลาดรวมของบริษัทในภาคส่วนนี้หายไปแทบครึ่งหนึ่งในเวลาเพียงไม่กี่เดือน กลายเป็นหนึ่งในเหตุการณ์เทขายเชิงโครงสร้างที่รุนแรงที่สุดตั้งแต่ยุคล่มสลายของกระดานเทรด FTX
มูลค่าบริษัทที่ถือคริปโตหายไปเกือบ 50%
ข้อมูลจาก The Block ระบุว่า มูลค่าตลาดรวมของบริษัทกลุ่ม “Corporate Crypto Treasury” ร่วงจากระดับ 1.76 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคม ลงเหลือเพียง 9.9 หมื่นล้านดอลลาร์ ในปัจจุบัน
ขณะเดียวกัน ราคาของ Bitcoin, Ethereum และ Solana ต่างร่วงลงจากจุดสูงสุดล่าสุดอย่างรวดเร็ว ยิ่งตอกย้ำแรงขายภาคหุ้นที่มีคริปโตถือครองจำนวนมาก
การเทขายที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจาก Panic ของนักลงทุนรายย่อย แต่ถูกเร่งโดยความเสี่ยงใหม่ทางโครงสร้างที่ MSCI กำลังหยิบยกขึ้นมาพิจารณา
MicroStrategy อาจถูกถอดออกจากดัชนีของ MSCI
JPMorgan เผยว่า MSCI กำลังพิจารณากฎใหม่ที่จะ ถอดบริษัทที่ถือสินทรัพย์ดิจิทัลเกิน 50% ของงบดุลออกจากดัชนีอ้างอิงโดยมี MicroStrategy (MSTR) อยู่ในจุดเสี่ยงที่สุด เพราะถือครอง BTC มากถึง 649,870 BTC
ในรายงานระบุชัดว่า:
“MicroStrategy มีความเสี่ยงที่จะถูกลบออกจากดัชนี MSCI โดยการตัดสินจะประกาศในวันที่ 15 มกราคม 2026”
หากเกิดขึ้นจริง ผลกระทบมหาศาลทันทีคือ:
- เงินไหลออก 2.8 พันล้านดอลลาร์ จากการถูกถอดออกจากดัชนี MSCI
- สูงสุดถึง 8.8 พันล้านดอลลาร์ หากดัชนีอื่นทำตาม
นั่นเป็นเพราะกองทุนต่าง ๆ รวมถึง ETF ที่ติดตามดัชนีเหล่านี้ ต้องขาย MSTR ออกตามกฎ ไม่ใช่เพราะไม่เชื่อในบริษัท แต่เพราะเกณฑ์ใหม่ของดัชนีบังคับให้ทำ
MSCI คือใคร และเหตุใดจึงสำคัญต่อบริษัทคริปโต?
MSCI USA เป็นหนึ่งในดัชนีอ้างอิงที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก ครอบคลุมตลาดหุ้นสหรัฐฯ กว่า 85% บริษัทที่ถูกจัดเข้าในดัชนีจะได้รับเม็ดเงินจากกองทุนพาสซีฟแบบอัตโนมัติ ซึ่งมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
ดังนั้น การถูกถอดออกจากดัชนีสำคัญจึงเท่ากับสูญเสีย “เสาหลักด้านสภาพคล่อง” ไปทันที
นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้ให้บริการดัชนีระดับโลกพิจารณาเกณฑ์จำกัดบริษัทที่ถือสินทรัพย์ดิจิทัลมากเกินไป ซึ่งอาจกลายเป็นเหตุการณ์เปลี่ยนโครงสร้างครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล
Source: TheStreet