John Bollinger นักวิเคราะห์กราฟเทคนิคระดับตำนานและเป็นผู้คิดค้นอินดิเคเตอร์ยอดนิยมอย่าง Bollinger Bands ล่าสุดเขาได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกราฟราคาของ Bitcoin (BTC) โดยระบุว่าราชาของเหรียญคริปโตกำลังก่อตัวในแพทเทิร์น “Double Bottom” หรือกราฟรูปตัว W ซึ่งตามทฤษฎีแล้วถือเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้น
ตามทฤษฏีแล้วการที่กราฟจะทำรูปแบบ W ราคาจะต้องทำ new low ก่อนที่จะเด้งกลับขึ้นไปยังแนวต้านและร่วงลงมาในจุดต่ำสุดเดิม จากนั้นราคาจะดีดขึ้นสูงเหนือยอดตรงกลาง
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีสัญญาณทางเทคนิคที่เป็นบวก แต่ Bollinger กลับไม่ได้มองโลกในแง่ดีนัก เขาได้ออกมา “ดับฝัน” นักลงทุน โดยให้ความเห็นว่าศักยภาพในการปรับตัวขึ้น อาจจะไม่คุ้มค่ากับความเสี่ยงที่ต้องแบกรับในขณะนี้ ซึ่งนั่นหมายความว่าการฟื้นตัวของราคาที่เราเห็นกันอยู่อาจเป็นเพียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้น
ข้อมูลจาก CoinGecko แสดงให้เห็นว่าราคาของ Bitcoin ได้พุ่งขึ้นไปแตะจุดสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 93,928 ดอลลาร์ ซึ่งสอดคล้องกับช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง โดยรูปแบบ W-bottom ที่ Bollinger พูดถึงนั้น จะเกิดขึ้นเมื่อราคาสินทรัพย์ทำจุดต่ำสุดใหม่ แล้วดีดตัวขึ้นไปชนแนวต้าน ก่อนจะร่วงลงมาทำจุดต่ำสุดเดิมอีกครั้ง และสุดท้ายต้องดีดตัวกลับขึ้นไปจนทะลุจุดสูงสุดเดิม (ยอดตรงกลางของตัว W) ให้ได้ รูปแบบนี้ถึงจะสมบูรณ์และยืนยันการกลับตัว
สิ่งที่ Bollinger กังวลเกี่ยวกับ “Risk/Reward Setup” น่าจะมาจากการที่ราคาอาจจะหยุดชะงัก หรือร่วงลงอีกครั้งก่อนที่จะสามารถทะลุแนวต้านสำคัญเพื่อยืนยันรูปแบบขาขึ้นได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งหากไม่ผ่านแนวต้านนี้ ราคาก็มีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลงต่อได้
ประวัติการทำนายของ Bollinger นั้นมีทั้งถูกและผิด โดยเมื่อเดือนเมษายนเขาเคยทำนายว่าราคา Bitcoin จะพุ่งหลังจากลงไปต่ำถึง $74,000 จากนั้นก็พุ่งจริงจนทะลุหลักแสน
แต่ในทางกลับกัน เมื่อเดือนตุลาคมเขาคาดการณ์ว่า Ethereum (ETH) และ Solana (SOL) กำลังทำรูปแบบ W-bottom แต่ผลลัพธ์กลับกลายเป็นว่าเหรียญทั้งสองราคาร่วงลงอย่างหนักในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามด้าน Peter Brandt ยอดนักเทรดระดับพระกาฬ กลับออกมาเตือนว่า Bitcoin ยังคงอยู่ใน “ตลาดหมี” และมองว่าการพุ่งขึ้นล่าสุดอาจเป็นเพียงแค่ “Dead Cat Bounce” (แมวดิ้น) เท่านั้น ก่อนที่ราคา Bitcoin จะกลับมาดำเนินการต่อในแนวโน้มขาลง
ที่มา : u.today

