บทวิเคราะห์ล่าสุดของ Bitwise บริษัทจัดการสินทรัพย์ด้านคริปโตระบุว่า ความผันผวนของ Bitcoin มีแนวโน้มต่ำกว่าหุ้น Nvidia (NVDA) และคาดว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะดำเนินต่อไปจนถึงปี 2026 โดยให้เหตุผลว่า Bitcoin กำลังได้รับการยอมรับในวงกว้างมากขึ้นจากนักลงทุนสถาบัน และมีฐานผู้ถือครองที่กระจายตัวมากขึ้น
Bitwise มองว่าแนวโน้มดังกล่าวสะท้อนถึงการ “ลดความเสี่ยงเชิงโครงสร้าง” ของ Bitcoin หลังจากที่สินทรัพย์เริ่มถูกบรรจุอยู่ในผลิตภัณฑ์การลงทุนแบบดั้งเดิม เช่น กองทุน ETF ซึ่งช่วยดึงดูดเงินทุนจากนักลงทุนระยะยาวและลดการเก็งกำไรที่รุนแรงลง
ความผันผวน Bitcoin ลดลงต่อเนื่อง
Bitwise ระบุว่า ความผันผวนของ Bitcoin ลดลงอย่างต่อเนื่องตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และการเคลื่อนไหวของราคาในปี 2025 ก็แสดงให้เห็นภาพดังกล่าวอย่างชัดเจน เมื่อ Bitcoin มีการแกว่งตัวน้อยกว่าหุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่อย่าง Nvidia
“การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการลดความเสี่ยงพื้นฐานของ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์การลงทุน และการกระจายตัวของฐานนักลงทุนผ่านเครื่องมือแบบดั้งเดิมอย่าง ETF”
Bitwise ระบุในรายงาน
เปรียบเทียบความผันผวน: Bitcoin vs Nvidia
ข้อมูลราคาชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนในด้านความผันผวน
- Bitcoin ปรับตัวขึ้นลงราว 68% จากจุดต่ำสุดของปีที่ระดับประมาณ 75,000 ดอลลาร์ในเดือนเมษายน ไปสู่จุดสูงสุดตลอดกาลที่ราว 126,000 ดอลลาร์ในช่วงต้นเดือนตุลาคม
- Nvidia มีความผันผวนสูงกว่ามาก โดยราคาปรับตัวขึ้นลงถึง 120% จากจุดต่ำสุดราว 94 ดอลลาร์ในต้นเดือนเมษายนไปสู่จุดสูงสุดของปี 2025 ที่ประมาณ 207 ดอลลาร์ในช่วงปลายเดือนตุลาคม
อย่างไรก็ตาม ในแง่ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี หุ้น Nvidia ยังคงทำผลงานเหนือกว่า โดยปรับตัวขึ้นราว 27% ขณะที่ Bitcoin ปรับตัวลดลงประมาณ 8% ท่ามกลางภาวะที่ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีแยกตัวออกจากตลาดหุ้นโลก
Bitwise ยังมองบวกต่อแนวโน้มระยะยาวของ Bitcoin
แม้ความผันผวนจะลดลง Bitwise ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อ Bitcoin ในระยะยาว โดยคาดว่า Bitcoin จะสามารถทำ All-Time High ใหม่ได้ และอาจกำลังหลุดออกจากวัฏจักร 4 ปี โดย Bitwise ชี้ว่า ปัจจัยสำคัญที่เคยขับเคลื่อนวัฏจักรในอดีต เช่น การ Halving วัฏจักรอัตราดอกเบี้ย ฟองสบู่และความผันผวนจากการใช้ Laverage สูง จะมีอิทธิพลต่อราคาน้อยลงกว่ารอบก่อนหน้า
สถาบันการเงินจ่อเข้าสู่ตลาดคริปโตมากขึ้น
Bitwise คาดว่าในปี 2026 สถาบันการเงินแบบดั้งเดิมรายใหญ่ เช่น Citigroup, Morgan Stanley, Wells Fargo และ Merrill Lynch จะเข้ามามีบทบาทในตลาดคริปโตมากขึ้น พร้อมกับการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนใน กองทุน ETF คริปโตแบบสปอตและการขยายตัวของกิจกรรมบนเครือข่าย (On-chain)
นอกจากนี้ บรรยากาศด้านกฎระเบียบที่เป็นมิตรต่อคริปโตมากขึ้น ยังถูกมองว่าจะช่วยเร่งการนำคริปโตไปใช้งานในภาคธุรกิจ และสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมในระยะยาว
หุ้นคริปโตอาจแซงหุ้นเทคโนโลยี
ในบทสรุป Bitwise ระบุว่า แม้หุ้นเทคโนโลยีจะให้ผลตอบแทนแข็งแกร่ง โดยเพิ่มขึ้นกว่า 140% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา แต่หุ้นที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซีให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า และอาจยังคงเหนือกว่าหุ้นเทคในช่วงถัดไป หากการยอมรับคริปโตในระดับสถาบันยังคงเร่งตัวต่อเนื่อง