<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

จุดอ่อนคริปโต? ซานฟรานซิสโกเกิดไฟดับครั้งใหญ่ทำผู้ใช้นับหมื่นเข้าเว็บเทรด–Wallet ไม่ได้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เหตุการณ์ไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ได้เกิดขึ้นที่ซานฟรานซิสโกเมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนและธุรกิจกว่า 130,000 แห่งต้องตกอยู่ในความมืดมิด เหตุการณ์นี้บีบให้ผู้อยู่อาศัยต้องเผชิญหน้ากับความเปราะบางพื้นฐานของเทคโนโลยี โดยมีสาเหตุเกิดจากเพลิงไหม้ที่สถานีไฟฟ้าแรงสูงของ PG&E 

วิกฤตการณ์ครั้งนี้ตัดขาดการเข้าถึงวอลเล็ตและกระดานเทรดคริปโตเคอร์เรนซีของผู้ใช้งานหลายพันราย ซึ่งเป็นเครื่องเตือนใจที่สำคัญว่า แม้เครือข่ายบล็อกเชนแบบกระจายศูนย์จะมีความทนทานเพียงใด แต่ในทางปฏิบัติการใช้งานคริปโตให้ได้จริงนั้นยังคงต้องพึ่งพาไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตในท้องถิ่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

วิกฤตพลังงานในครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเวลา 13:09 น. ตามเวลาสหรัฐฯ โดยส่งผลกระทบต่อลูกค้าของ PG&E ประมาณ 1 ใน 3 ของทั้งเมืองซานฟรานซิสโก เหตุชะงักงันเริ่มต้นที่ย่านริชมอนด์ก่อนจะแพร่กระจายไปทั่วเมือง แม้ภายในเวลา 23:00 น. จะสามารถกู้ไฟฟ้ากลับคืนมาให้ลูกค้าได้ประมาณ 95,000 ราย แต่ยังมีอีกเกือบ 18,000 รายที่ยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้จนถึงช่วงบ่ายวันอาทิตย์ 

เหตุการณ์นี้ทำให้ระบบขนส่งมวลชนของเมืองหยุดชะงัก รถแท็กซี่ไร้คนขับของ Waymo ต้องหยุดจอดค้างอยู่กลางทาง และบีบให้ร้านอาหารกับร้านค้าจำนวนมากต้องปิดตัวลง ขนาดของผลกระทบสร้างความประหลาดใจให้กับหลายฝ่าย โดยมีผู้สังเกตการณ์รายหนึ่งระบุบนโซเชียลมีเดียว่า เกือบ 30% ของเมืองสูญเสียไฟฟ้าไปชั่วข้ามคืน ทั้งที่ไม่มีพายุ ไม่มีคำเตือน และไม่มีความรับผิดชอบที่ชัดเจน

จริงอยู่ที่ว่า Bitcoin ยังคงทำงานได้ตามปกติ มีการยืนยันธุรกรรมต่อเนื่องไม่ได้หายไปไหน แต่หากไม่มีไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ต ผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบจะไม่สามารถเข้าถึงวอลเล็ต ดำเนินการเทรด หรือชำระเงินให้เสร็จสมบูรณ์ได้ ขณะที่ฝั่งร้านค้าที่รับคริปโตก็เผชิญข้อจำกัดเดียวกัน คือเมื่อไม่มีไฟ ระบบ ณ จุดขาย (POS) ก็ทำงานไม่ได้ ในส่วนของการทำเหมืองขุด (Mining) ซึ่งต้องใช้พลังงานมหาศาลและต่อเนื่องนั้นจะต้องหยุดชะงักทันที

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเหตุไฟดับกระทบต่อพื้นที่ที่มีอัตรา Hash rate  หนาแน่น การตรวจสอบเครือข่ายอาจช้าลงชั่วคราว สำหรับผู้ที่อยู่ระหว่างการทำธุรกรรมขณะไฟดับ ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับจังหวะเวลา หากธุรกรรมยังไม่ได้รับการยืนยัน มันจะค้างอยู่ใน Mempool และจะถูกประมวลผลเมื่อกลับมาเชื่อมต่อได้อีกครั้ง ส่วนธุรกรรมที่ยืนยันแล้วจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้และไม่ได้รับผลกระทบ

ในทำนองเดียวกัน สินทรัพย์ที่ถูกเก็บไว้ใน Hardware Wallet แม้ตัวอุปกรณ์จะมีความปลอดภัยสูงและสินทรัพย์ยังอยู่ครบถ้วน แต่หากเจ้าของต้องติดอยู่ในอพาร์ตเมนต์ที่ไร้ไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ต พวกเขาก็จะไม่สามารถตรวจสอบยอดเงิน เซ็นอนุมัติธุรกรรม หรือเคลื่อนย้ายสินทรัพย์เพื่อตอบสนองต่อความผันผวนของตลาดได้เลย

ในทางกลับกัน กระดานเทรดคริปโตชั้นนำ กลับแทบไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ลักษณะนี้ เนื่องจากมีการเตรียมพร้อมรับมือไว้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นระบบสำรองไฟ (UPS), เครื่องปั่นไฟขนาดใหญ่ ไปจนถึงโปรโตคอลการโอนย้ายข้อมูลอัตโนมัติ (Failover) ที่หากอาคารหลักขัดข้อง ระบบการซื้อขายจะถูกสลับไปยังศูนย์ข้อมูลในภูมิภาคอื่นทันทีอย่างไร้รอยต่อ

สถานการณ์นี้จึงนำไปสู่ข้อถกเถียงสำคัญเกี่ยวกับเสถียรภาพของคริปโตเคอร์เรนซี ว่าจะสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐานนี้ไปได้อย่างไร เพื่อให้กลายเป็นสกุลเงินที่โลกยอมรับได้อย่างแท้จริง เพราะในปัจจุบันคริปโตยังคงพิสูจน์ความแข็งแกร่งได้เพียงในเชิงทฤษฎีเท่านั้น แต่ในทางปฏิบัตินั้นยังคงมีช่องว่างที่ต้องเติมเต็ม

เหตุการณ์ครั้งนี้จึงถือเป็นเครื่องเตือนใจสำคัญสำหรับผู้ถือครองคริปโตว่า “แผนสำรอง” คือสิ่งจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมช่องทางเข้าถึงอินเทอร์เน็ตสำรอง หรือแหล่งพลังงานพกพา เพื่อให้มั่นใจว่าจะยังสามารถควบคุมสินทรัพย์ของตนเองได้เสมอแม้ในสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน

ที่มา : Beincrypto