วันนี้ (26 ธันวาคม) ราคา Bitcoin ได้เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยการเคลื่อนไหวในกรอบแคบ หรือ ไซด์เวย์ โดยมีการปรับตัวอยู่ในช่วง $88,500 – $86,900 เพื่อรอความเคลื่อนไหวใหญ่ที่กำลังจะมาถึง
อ้างอิงข้อมูลจากกราฟ BTC/USD ราคาของ Bitcoin มีความพยายามขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดของวันที่ระดับ $88,592 ก่อนที่จะเจอกับแรงเทขายทำกำไรระยะสั้น ย่อตัวลงมาแตะจุดต่ำสุดที่ $86,891 และกลับมาฟื้นตัวประคองฐานเหนือระดับ $87,000 ได้อีกครั้งในเช้าวันนี้
การนิ่งสงบในช่วงเช้าเปรียบเสมือนการสะสมพลังของ Bitcoin ก่อนเข้าสู่ “เหตุการณ์ระดับประวัติศาสตร์” ในช่วงบ่ายคือ การหมดอายุของสัญญาออปชันครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งความพิเศษไม่ได้อยู่ที่การเป็นวันศุกร์สุดท้ายของเดือนเท่านั้น แต่ยังเป็นการปิดสัญญารอบ “สิ้นไตรมาส” และ “สิ้นปี” พร้อมกัน
โดยมีการประเมินมูลค่าสัญญาที่กำลังจะหมดอายุสูงถึง 2.37 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 7 แสนล้านบาท ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา
การหมดอายุสัญญา Options ในรอบนี้ จุด Max Pain ของ Bitcoin ถูกวางไว้ที่ระดับ $95,000 ขณะที่ Ethereum อยู่ที่ระดับ $3,000 ตามทฤษฎีแล้ว ในวันหมดอายุราคามักจะมีแรงดึงดูด ให้ขยับเข้าไปใกล้เคียงกับราคาดังกล่าว เพื่อทำให้สัญญาไร้มูลค่าให้ได้มากที่สุด ซึ่งหมายความว่าหากตลาดเป็นไปตามกลไกปกติ เราอาจได้เห็นการ “Short Squeeze” หรือการดีดตัวอย่างรุนแรงจากระดับ $87,000 ขึ้นสู่โซน $90,000+ ได้ในช่วงบ่ายถึงค่ำวันนี้
ในด้านความเชื่อมั่นของนักลงทุน ข้อมูล On-chain เปิดเผยว่าตลาดปัจจุบันมีสภาวะ Bullish Bias หรือเอียงไปทางขาขึ้นอย่างชัดเจน สะท้อนจากอัตราส่วน Put-Call Ratio ที่ระดับ 0.38 (หมายความว่ามีการเปิดสัญญาฝั่ง Call หรือคาดว่าราคาจะขึ้น มากกว่าฝั่ง Put ที่คาดว่าราคาจะลงอย่างมีนัยสำคัญ)
อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นในรอบนี้อาจไม่ได้ราบรื่นนัก เนื่องจากมีแรงต้านมหาศาลที่ระดับ $100,000 ซึ่งเป็นโซนแนวต้านจิตวิทยาและเป็นระดับราคาที่มีการตั้งราคาใช้สิทธิ Strike Price หนาแน่นที่สุด ส่งผลให้ระดับแสนดอลลาร์อาจจำกัดการปรับตัวขึ้นในระยะสั้น