นักวิเคราะห์จาก VanEck บริษัทจัดการสินทรัพย์ยักษ์ใหญ่ได้นำเสนอแง่มุมที่น่าสนใจว่า การที่ตัวชี้วัดบางอย่างของ Bitcoin กำลังลดลงในขณะนี้ อาจไม่ใช่ข่าวร้ายเสมอไป แต่อาจเป็น “สัญญาณบวก” ที่ส่งผลดีต่อราคาในอนาคต
โดย Matthew Sigel หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินทรัพย์ดิจิทัล และ Patrick Bush นักวิเคราะห์อาวุโส ได้ระบุในรายงานล่าสุดว่า การลดลงของ Hash Rate หรือกำลังการขุดรวมในเครือข่าย มักจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงการที่นักขุดแบกรับต้นทุนไม่ไหว จนออกจากระบบไป ซึ่งจากข้อมูลสถิติย้อนหลังหลายปีพบว่า เมื่อแรงขุดลดลง จนถึงจุดหนึ่ง มักจะตามมาด้วยการฟื้นตัวของราคา Bitcoin อย่างรุนแรง ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ซึ่งในช่วงเดือนธันวาคม 2025 นี้ กำลังขุดของ Bitcoin หรือ Hash Rate ได้ปรับตัวลดลงเฉลี่ยถึง 4% ภายในเวลา 30 วัน ซึ่งถือเป็นการลดลงที่รุนแรงที่สุดในรอบกว่าหนึ่งปี นับตั้งแต่ช่วงเมษายน 2024
โดยปกติแล้วหาก Hash Rate สูง จะหมายถึงเครือข่ายที่แข็งแรงและปลอดภัย แต่การที่ตัวเลขนี้ลดลง มักทำให้หลายคนกังวลว่า นักขุดกำลังแย่ จนต้องแห่เทขายเหรียญออกมา เพื่อเอาตัวรอด ซึ่งจะส่งผลให้ราคา Bitcoin ดิ่งลงตามไป
อย่างไรก็ตาม ทาง VanEck ได้ออกมาแย้งว่า เหตุการณ์นี้ไม่ได้เป็นลบเสมอไป เพราะในเชิงสถิติแล้ว การที่นักขุดที่ต้นทุนสูงยอมแพ้ และออกจากระบบไป มักจะเป็นการช่วยลดแรงเทขายในระยะยาว และเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า ราคา Bitcoin อาจใกล้ถึงจุดต่ำสุด ก่อนจะกลับมาเป็นขาขึ้นรอบใหม่
สาเหตุที่การลดลงของ Hash Rate อาจกลายเป็นสัญญาณของ “ขาขึ้น” นั้นมาจากสถิติย้อนหลังที่ทาง VanEck รวบรวมไว้ ซึ่งพบข้อมูลที่น่าสนใจว่า เมื่อกำลังการขุดลดลงในรอบ 30 วันที่ผ่านมา โอกาสที่ราคา Bitcoin จะปรับตัวเป็นบวกในอีก 90 วันข้างหน้าหรือ 3 เดือนมีสูงถึง 65% ซึ่งมากกว่าช่วงที่กำลังขุดเพิ่มขึ้น โดยราคา Bitcoin มีโอกาสปรับตัวเป็นบวกเพียง 54% เท่านั้น
หากมองภาพรวมในระยะยาวขึ้น 180 วัน ข้อมูลชี้ให้เห็นว่า กลุ่มที่กำลังขุด (Hash Rate) ลดลง ราคา Bitcoin มักให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง +20.5% ซึ่งสามารถทำผลงานได้ดีกว่าในช่วงที่กำลังขุดเพิ่มขึ้นเสียอีก
สถิตินี้สะท้อนถึงปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “การยอมแพ้ของนักขุด” (Miner Capitulation) ซึ่งเป็นจังหวะที่นักขุดที่สู้ต้นทุนไม่ไหว ตัดสินใจปิดเครื่องและระบายเหรียญที่ถืออยู่ออกมาจนหมด แรงขายที่เคยกดทับตลาดจึงจางหายไป
เมื่อแรงกดดันฝั่งคนขายลดน้อยลง แต่ความต้องการซื้อยังคงอยู่ จึงกลายเป็นโอกาสทองที่เปิดทางให้ราคา Bitcoin สามารถทะยานขึ้นได้แรงกว่าในช่วงที่การขุดยังคงแข่งขันกันอย่างดุเดือดและร้อนแรงนั่นเอง
หากการลดลงของกำลังขุดลากยาวต่อเนื่องถึง 90 วัน ข้อมูลจาก VanEck ยิ่งชี้ให้เห็นโอกาสทำกำไรที่เพิ่มมากขึ้น โดยพบว่า ในสภาวะที่ Hash Rate หดตัวต่อเนื่องแบบนี้ โอกาสที่ราคา Bitcoin จะปรับตัวเป็นบวกในอีก 180 วันข้างหน้า พุ่งสูงถึง 77% และให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง +72% เลยทีเดียว ซึ่งเมื่อเทียบกับสภาวะปกติทั่วไป ราคา Bitcoin มีโอกาสเพิ่มขึ้นเพียง 61% และให้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ +48%
จะเห็นได้ชัดว่า การเข้าซื้อ Bitcoin ในช่วงที่นักขุดกำลังแย่ต่อเนื่อง อาจให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการสุ่มซื้อในช่วงเวลาอื่นอย่างมาก โดยมีส่วนต่างของกำไรเฉลี่ยห่างกันถึง 24%
ที่มา : dailyhodl

