ตลาด Crypto ETF กำลังเตรียมเข้าสู่ยุคทองในปี 2026 โดยนักวิเคราะห์ต่างฟันธงว่าจะเกิดการ “ระเบิดตัว” ของเม็ดเงินลงทุนครั้งใหญ่ พร้อมกับการยื่นขอจัดตั้งกองทุนใหม่กว่า 100 กองทุนที่จ่อคิวเข้าสู่ตลาด ปัจจัยหนุนสำคัญมาจากความชัดเจนด้านกฎระเบียบในสหรัฐฯ และแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีในการดึงดูดเม็ดเงินมหาศาลเข้าสู่ระบบ
Eric Balchunas นักวิเคราะห์ระดับสูงจาก Bloomberg ประเมินว่า ในกรณีพื้นฐานเราจะได้เห็นเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิราว 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่หากสภาพตลาดเป็นใจ ตัวเลขนี้อาจพุ่งสูงถึง 4 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือกว่า 1.3 ล้านล้านบาท สิ่งที่น่าสนใจคือพฤติกรรมของนักลงทุน ETF ที่พิสูจน์แล้วว่ามี “ความอดทน” สูงมาก โดยในช่วงที่ตลาดปรับฐานลงกว่า 35% มีเม็ดเงินไหลออกเพียงแค่ 4% เท่านั้น สวนทางกับนักลงทุน Bitcoin ยุคเก่า ที่เป็นฝ่ายเทขายกดราคา ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้ถือ ETF มีวุฒิภาวะทางการลงทุนและมองภาพระยะยาวมากกว่าที่คิด
จุดเปลี่ยนสำคัญในปี 2026 จะอยู่ที่การเข้ามาของ “เงินก้อนโต” จากนักลงทุนสถาบัน กองทุนบำเหน็จบำนาญ และกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ ที่เริ่มจัดสรรพอร์ตมายังคริปโตมากขึ้น ประกอบกับความหวังในการผ่านร่างกฎหมาย CLARITY Act ของสหรัฐฯ ซึ่งจะเปรียบเสมือนการเปิดประตูเขื่อนให้นวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ ไหลทะลักเข้ามา ไม่ว่าจะเป็น ETF ของเหรียญ Altcoins ที่อาจมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว หรือผลิตภัณฑ์ที่สร้างผลตอบแทนจากการ Staking ซึ่ง Fabian Dori จาก Sygnum Bank มองว่าจะดึงดูดความต้องการได้มหาศาล
นักวิเคราะห์จาก Bitfinex ยังได้ทิ้งท้ายด้วยตัวเลขที่ชวนฝันว่า มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) รวมของตลาด Crypto ETF ทั้งหมด มีโอกาสที่จะเติบโตขึ้นเป็น 2 เท่า จนแตะระดับ 4 แสนล้านดอลลาร์ ภายในสิ้นปี 2026 ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง นี่จะเป็นเครื่องยืนยันว่าคริปโตได้กลายเป็นสินทรัพย์กระแสหลักที่โลกการเงินไม่อาจปฏิเสธได้อีกต่อไป
ที่มา: cointelegraph