กีฬาและเกมนั้นเป็นอะไรที่เรามักมีส่วนร่วมเสมอไม่ว่าจะบนอัฒจันทร์หรือว่าหลังจอโทรศัพท์หากเราไม่ได้ลงเล่นในสนาม
นั่นจึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่เกมจะครอบงำสิ่งที่คนส่วนใหญ่คิดว่าเป็น Metaverse หรือ Web3 ความหลงใหลในการเล่น, ความเข้าใจว่าการที่จะเติมเต็มให้เกมสมบูรณ์ขึ้นอยู่กับกฎและโครงสร้างและความตั้งใจที่จะให้คุณค่ากับสิ่งที่เกิดขึ้นภายในเกมเป็นสิ่งสำคัญซในวัฒนธรรมของเรา
จากฟุตบอลสู่หมากรุกใน Roblox นั่นเป็นส่วนสำคัญในทางเศรษฐกิจตลาดกีฬาทั่วโลกทำเงินได้เฉียด 4 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2020 แม้จะเป็นช่วงหลังจากการล็อกดาวน์การระบาดของ COVID-19 และการประเมินยอดทำเงินจากตลาดเกมน่าจะสูงถึง 178,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี
นั่นจึงไม่แปลกที่เกมนั้นจะปูทางสู่ Metaverse ที่เชื่อมโยงถึงกันมากขึ้นนอกจากนี้ยังมีแนวโน้มด้วยว่าเกมจะสามารถทำเงินให้กับผู้เล่นได้ด้วยความเคลื่อนไหวล่าสุดของทาง Microsoft ในการเข้าซื้อ Activision Blizzard ด้วยแล้วนั้นยื่งทำให้เห็นเลยว่าทาง Microsoft นั้นอาจมองเห็นอะไรในอนาคตของ Metaverse อย่างแน่นอน
แฟรนไชส์เกมออนไลน์รายใหญ่ต่าง ๆ จะรวมเข้ากับ Metaverse ของ Web3 ได้อย่างไรนั้นยังไม่มีใครรู้แต่ที่รู้คือเกมที่ขับเคลื่อนด้วยบล็อกเชนชื่อดังอย่าง Axie Infinity, Decentraland และ Alien Worlds กำลังเป็นผู้บุกเบิกเกม Play-to-Earn
ด้วยการใช้ประโยชน์จาก NFT และสกุลเงินดิจิทัลในเกมสามารถทำให้ผู้เล่นเปลี่ยนสินทรัพย์ในเกมเป็นโทเค็นและขายเปลี่ยนเป็นเงินจริงได้ผ่านเว็บเทรดคริปโตการพัฒนาที่น่าสนใจสำหรับทั้งคนที่ใช่คอเกมและไม่ใช่คอเกมแทนที่จะให้เจ้าของแบรนด์รายใหญ่ (Facebook, Meta, Microsoft, ฯลฯ) ทำให้เกมหมดคุณค่าแต่ควรให้ผู้เล่นนั้นสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของเกมได้
เรื่องราวต่าง ๆ นั้นเกิดขึ้นในปีที่แล้วชุมชนในฟิลิปินส์มีรายได้จากการเล่น Axie ทำให้เป็นเป้าสายตาจากเจ้าหน้าที่รัฐและได้มีการพูดแนะนำกันด้วยว่ารายได้ที่มาจาก Play-to-Earn นั้นควรถูกจัดเก็บภาษีด้วยปรากฎการณ์นี้ทำให้เห็นว่าเศรษฐกิจเกิดใหม่ในโลกคริปโตสามารถสร้างโอกาสทางการเงินให้กับเราได้อย่างไร
ด้วยการเพิ่มและลดของสกุลเงินในเกม Axie นั้นก็เป็นเหมือนความท้าทายในการพัฒนาการจำลองเศรษฐกิจในเกมที่ยั่งยืนไม่ต่างจากโลกความจริงในทางปฎิบัติหากเกม Metaverse จะประสบความสำเร็จพวกเขาต้องให้ความสำคัญในการเล่นมากกว่าการสร้างรายได้
ยุคแรกเริ่ม
สิ่งสำคัญที่ไม่ควรลืมนึกถึงนั่นคือแนวคิดของเกม Play-to-Earn ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเกมเช่น Axie เป็นการทดลองโมเดลที่ผสมผสานการเล่นเข้ากับระบบเศรษฐศาสตร์ Axie นั้นใช้ SLP เป็นสกุลเงินตัวที่สองในเกมหลังจากพบว่าเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยโทเค็นตัวเดียวนั้นเกิดปัญหาในด้านของสภาพคล่องการทดลองนี้จะดำเนินต่อไปแต่สิ่งสำคัญที่นักพัฒนาเกม Metaverse ต้องตระหนักถึงคือความสนุกของเกมนั้นต้องมาก่อนไม่ใช่การสร้างรายได้
ความเสี่ยงที่จะเกิดหากให้ความสำคัญที่การสร้างรายได้ของเกมมากกว่าความสนุกก็คือผู้เล่นจะหายไปจากระบบด้วยความพยายามของ Sega, Konami และ Square Enix เพื่อจะนำ NFT เข้ามาสู่เกมยอดนิยมของพวกเขาก็ได้รับกระแสตอบรับที่ไม่ค่อยสู้ดีนักจากคอเกม
อย่างไรก็ตามเราคาดหวังว่าโลกของ Metaverse ที่มีความซับว้อนและกว้างขวางนี้จะนำเสนอประสบการณ์ใหม่ที่น่าทึ่ง, ทางเลือกที่มากขึ้นและการเล่นที่สมบูรณ์แบบมากขึ้นสิ่งนี้จะไปสู่การเพิ่มจำนวนผู้เล่นให้มากขึ้นและทำให้เห็นถึงประโยชน์จากการถือโทเค็นและนำมาซึ่งการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในเกม
เมื่อใน Metaverse นั้นมีเกมและกีฬาที่เพิ่มมากขึ้นปัจจัยที่สำคัญมากประการหนึ่งคือคุณภาพที่แสดงออกมามนุษย์ต้องการการแข่งขัน, ตัวละคร, การเล่าเรื่องและการเดิมพันเรานั้นต่างต้องการตอบโต้ในฐานะส่วนหนึ่งของผู้ชมรวมถึงมีส่วนร่วมกับเกมด้วยตัวของเราเองไม่มีเหตุผลใดที่เกมบน Metaverse นั้นไม่ควรสมจริงและน่าตื่นเต้นเหมือนกับฟุตบอล Primier League อังกฤษ, NBA หรือ Free Fire World Series ซึ่งเป็นงาน E-sport ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุด
รูปแบบการเล่นที่ดียิ่งขึ้นจะเป็นจุดแข็งที่จะทำให้เศรษฐกิจในระดับจุลภาคของเกมยั่งยืนมากขึ้นสิ่งที่บล็อกเชนเข้ามาเติมเต็มนั่นคือระดับของความสามารถในการทำงานร่วมกันเพื่อทำให้เศรษฐศาศตร์ของเกม Metaverse ในระดับมหภาคนั้นมีสภาพคล่องที่ดีและมีความยุติธรรมในกีฬาขนาดใหญ่
ปัจจุบันนี้การทำงานร่วมกันนั้นเปิดโอกาสให้ผู้เล่นนำสินทรัพย์ดิจิทัลออกจากเกมหนึ่งไปยังอีกเกมหนึ่งได้โดยตรงหรือแม้แต่จะนำออกสู่แพลตฟอร์มโซเชียลนั่นจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้เล่นสามารถทำกำไรได้มากขึ้นด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้เจ้าของเครือข่ายทั้งเกมและกีฬารวมสามารถได้รับผลประโยชน์
