ที่ผ่านมากลุ่มไทยพาณิชย์ (SCB Group) ประกาศวิสัยทัศน์องค์กร รับบริบทใหม่ของโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จัดตั้งบริษัทแม่ภายใต้ชื่อ “SCBX” (เอสซีบี เอกซ์) เพื่อเร่งขยายธุรกิจเชิงรุกเข้าสู่ธุรกิจการเงินและแพลตฟอร์มอย่างเต็มรูปแบบ เตรียมพร้อมเข้าสู่สนามการแข่งขันแบบใหม่ที่กำลังเกิดขึ้น ยกระดับสู่กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีการเงินระดับภูมิภาคภายในปี 2025 โดยมีเป้าหมายสร้างฐานลูกค้าสองร้อยล้านคนพร้อมภารกิจเชื่อมต่อ ecosystem ทั้งในและต่างประเทศ โดย “SCBX” จะยังอยู่ภายใต้การกำกับดูแลที่ใกล้ชิดของธนาคารแห่งประเทศไทย
กลุ่มไทยพาณิชย์เดินหน้าขับเคลื่อนยุทธศาสตร์องค์กร ปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจทางการเงินและโครงสร้างการถือหุ้น มุ่งสร้างการเติบโตและมูลค่าในระยะยาว รับบริบทโลกยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ SCBX ยังได้ประกาศทำคำเสนอซื้อ หรือ Tender Offer หุ้นทั้งหมดของธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) กับผู้ถือหุ้นของ SCB เพื่อแลกกับหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกใหม่ของ SCBX ในอัตราการแลกหลักทรัพย์เท่ากับ 1 หุ้นสามัญของ SCB ต่อ 1 หุ้นสามัญของ SCBX และ 1 หุ้นบุริมสิทธิของ SCB ต่อ 1 หุ้นสามัญของ SCBX โดยจะเริ่มกระบวนการแลกหุ้นได้ตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2565 ถึงวันที่ 18 เมษายน 2565 เพื่อเตรียมนำ SCBX เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเพิกถอนหุ้นของธนาคารไทยพาณิชย์ออกจากตลาดในวันเดียวกัน
โดยได้มีตัวแทนในการรับซื้อหลักทรัพย์ (Tender Agents) จำนวน 4 บริษัท ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS), บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคิน ภัทร จำกัด (มหาชน) (KKPS), บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) (BLS) และ บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด (ASP)
นายอาทิตย์ นันทวิทยา CEO ของ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “หลังได้รับมติอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของธนาคารฯ เมื่อปลายปี 2564 ที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ได้มาถึงกระบวนการแลกหุ้นจากธนาคารไทยพาณิชย์ “SCB” เป็น “SCBx” และนำหุ้น “SCBx” เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แทนหุ้นของธนาคารไทยพาณิชย์
สิ่งนี้เป็นเพียงหนึ่งในกระบวนการที่สำคัญในการปรับโครงสร้างทางธุรกิจของกลุ่มไทยพาณิชย์ เพื่อเร่งขยายธุรกิจเชิงรุกเข้าสู่ธุรกิจการเงินที่มีศักยภาพสูง และธุรกิจแพลตฟอร์มอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมมีเป้าหมายสร้างการเติบโตอย่างไร้ขีดจำกัด และสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืนและแข็งแรงให้กับผู้ถือหุ้นต่อไปในระยะยาว
การแลกหุ้นดังกล่าวจะไม่ได้เป็นไปโดยอัตโนมัติ แต่จะเกิดขึ้นเฉพาะกรณีที่ผู้ถือหุ้นของ SCB ได้ทำการ “ตอบรับ” คำเสนอซื้อหลักทรัพย์แล้วเท่านั้น และเมื่อกระบวนการแลกหุ้นแล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน 2565 หรือเมื่อผู้ถือหุ้น SCB ตอบรับคำเสนอซื้อมีจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของ SCB ก็จะนำหุ้น “SCBX” เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยจะยังใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ “SCB” เช่นเดิม
ทั้งนี้ นายอาทิตย์ กล่าวได้กล่าวเสริมอีกว่า
“เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่ากระบวนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพและความคล่องตัวในการเติบโตของธุรกิจภายใต้กลุ่มไทยพาณิชย์ในหลายด้าน รวมทั้งเพิ่มความชัดเจนในการทำธุรกิจของกลุ่มฯ ให้สามารถขยายและพัฒนาธุรกิจใหม่ที่มีอนาคตได้อย่างเต็มที่ มีการแบ่งแยกการกำกับดูแลและการบริหารความเสี่ยงทางธุรกิจอย่างชัดเจน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการประกอบธุรกิจของกลุ่มไทยพาณิชย์โดยรวม และจะนำไปสู่โอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น จากการดำเนินงานของธุรกิจที่โอนย้ายไปยัง SCBX รวมถึงธุรกิจใหม่ในอนาคตในอุตสาหกรรมที่มีโอกาสเติบโตและมีศักยภาพสูง”
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ SCB จะขยายเข้าสู่ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (digital asset business) ในระดับโลกเพื่อเข้าสู่โลกการเงินแห่งอนาคตผ่าน SCB 10X และบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) โดยการร่วมลงทุนและเป็นพันธมิตรกองทุนระดับโลก และการพัฒนาธุรกิจ digital asset ด้านต่างๆ ใน business model ใหม่เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกลุ่มในระยะยาวกับบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (Bitkub Online Co., Ltd.) ผ่านการเข้าซื้อหุ้นสามัญในสัดส่วนร้อยละ 51 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดจากบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (Bitkub Capital Group Holdings Co., Ltd.) ในสัดส่วนร้อยละ 51 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 17,850 ล้านบาทในปี 2564 ที่ผ่านมา