นักวิเคราะห์บางคนรู้สึกว่าค่าเงินดอลลาร์และตลาดใกล้จะถึงจุดล่มสลายเนื่องจากราคาอาหาร, น้ำมันและพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นรวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่ส่งผลกระทบแผ่ขยายออกไปเป็นวงกว้าง
ในการพูดคุยกับ Daniela Cambone จาก Stansberry Research Robert Kiyosaki นักธุรกิจและผู้แต่งหนังสือเกี่ยวกับการเงินชื่อดัง “พ่อรวยสอนลูก” ได้เตือนว่าเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นสัญญาณของวิกฤตครั้งใหญ่ที่มีแต่จะเลวร้ายลงอย่างเดียวและ “ตลาด repo” กลับคืนสู่สภาพเดิมอีกครั้ง” แสดงให้เห็นถึงเศรษฐกิจนั้นกำลังถดถอย
Kiyosaki ได้พูดถึงความกังวลที่ใหญ่ที่สุดของเขาโดยเขากล่าวว่า
“อย่างที่เราทุกคนทราบดีว่าอเมริกานั้นไม่ได้ผลิตอะไรอีกต่อไปแล้วเราผลิตฟองสบู่ที่คุณรู้จักเราเหมือนแค่กำลังเป่าฟองอากาศกันอยู่ตอนนี้เรามีฟองสบู่ในอสังหาริมทรัพย์, หุ้นและพันธบัตรจากนั้นเพียงแค่ Biden ทำการเป่าท่อที่มีฟองนี้อยู่มันก็จะเปรียบเหมือนเป็นการกวาดล้างเราทั้งหมด
เขายังกล่าวเสริมอีกว่า
“เงินเฟ้อนั้นพุ่งสูงขึ้นแต่ชาวอเมริกันโดยทั่วไปนั้นยังมีเงินไม่ถึง $1,000 เลยผู้คนกว่า 40% ที่ยังมีเงินไม่ถึง $1,000 ดังนั้นเมื่ออัตราเงินเฟ้อนั้นเพิ่มสูงขึ้นเราจะได้เห็นการกวาดล้างประชากรสหรัฐ 50% และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติ”
ตลาดหุ้นพังพินาศ
Kiyosaki ได้เน้นอีกด้วยว่าหากเมื่อใดที่ตลาดหุ้นเกิดการพังพินาศประชากรกว่า 401,000 รายจะอยู่ในจุดที่ล้มเหลวอีกทั้งแผนเกษียณของพวกเขาที่ตั้งใจจะมีเงินเก็บก็พังอีกด้วย
นอกจากนี้เขายังบอกอีกด้วยว่าราคาอาหารที่เพิ่มสูงขึ้นนั้นจะนำมาซึ่งปัญหาร้ายแรง
“เมื่อ Biden นำพาสหรัฐฯ ไปอยู่ในจุดเสี่ยงราคาน้ำมันก็เพิ่มสูงขึ้น น้ำมันต้องนำใช้ผลิตปุ๋ยและเมื่อปุ๋ยราคาไม่ถูกอีกต่อไปแล้วผู้คนก็จะผลิตอาหารกันไม่ได้และคนอเมริกันโดยทั่วไปนั้นไม่มีอะไรเลยจำนวนกว่าของชาวอเมริกัน 40% ไม่ต้องมาเจอกับปัญหาเงินเฟ้อด้วยฐานะของพวกเขาความผิดพลาดที่เกิดกับตลาดหุ้นจะทำให้จำนวนคนรุ่น baby boomer นั้นลดลงดังนั้นเราจึงประสบปัญหาร้ายแรง”
Kiyoski มุมมองเกี่ยวกับ Crypto
Kiyoski พูดถึงการลงทุนใน cryptocurrency อย่าง Bitcoin, Ethereum และ Solana เพื่อใช้ป้องกันตัวเองด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐที่กำลังจะพังพินาศเขากล่าวว่า
“ข้อเสนอที่ดีสุดมักจะมาก่อนเวลาเสมอเมื่อมีคนมาพูดกับคุณว่าคุณได้ซื้อ Bitcoin ตอนที่ราคาของมันอยู่เพียงแค่ $6,000 ใช่หรือไม่ดังนั้นตอนนี้ Solana ก็เหมือนกันที่มันยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและอาจราคาวิ่งได้อีกยาว”
และในท้ายที่สุดเขาได้กล่าวว่าหากรัฐบาลที่ขึ้นมาชุดใหม่เป็นคนที่มีตวามพัวพันกับ crypto เขาเชื่อว่าพวกเขานั้นจะรู้ทุก ๆ สิ่งที่เขาทำและเขาก็ไม่ได้ไว้ใจอะไรกับรัฐบาลชุดนี้อยู่แล้วด้วย