บริษัท Meta ขาดทุนกว่า 2.9 พันล้านดอลลาร์จากการรายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ของ Reality Labs แผนกที่มุ่งเน้นด้านการพัฒนาโปรเจกต์ Metaverse อย่างไรก็ตามทาง Mark Zuckerberg ยังคงมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับโอกาสที่ Meta จะสามารถทำกำไรได้ในอนาคตจาก Metaverse
Meta Platforms Inc. หรือชื่อเดิมก็คือ Facebook Inc. ได้ประกาศผลประกอบการรายไตรมาส 1 ปี 2022 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยที่แผนก Reality Labs ยังคงขาดทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แผนก Reality Labs ซึ่งเดิมเรียกว่าแผนก Oculus ของ Facebook ได้ใช้เงินทุนเพิ่ม เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี VR (virtual reality) และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse โดยขาดทุน 2.9 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 1 ปี 2022 ซึ่งมากกว่าไตรมาสที่ 1 ของปี 2021 ถึง 61% .
ส่วนใหญ่ รายรับที่เพิ่มเข้ามาของแผนก Reality Labs จะมาจากการขายสิ่งของต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการเข้าสู่โลกของ Metaverse อย่างเช่น ชุดหูฟัง VR และฮาร์ดแวร์ Meta Portal โดยมีรายรับเข้ามาประมาณ 695 ล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้
หลังจากการรายงานผลประกอบรายไตรมาสในช่วงวันพุธที่ผ่านมา Mark Zuckerberg CEO ของ Meta กล่าวว่า เขาคาดว่าจะเงินขาดทุนในส่วนนี้ เป็นผลมาจากการที่ Reality Labs ยังคงพยายามมุ่งเน้นไปที่การวิจัยและพัฒนาชุดผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ เช่น Project Cambria เป็นส่วนใหญ่
“ผมรู้ว่าการจะสร้างสิ่งนี้ มันมีราคาที่แพง มันเป็นสิ่งที่ไม่เคยสร้างมาก่อน และเป็นกระบวนการใหม่สำหรับการคำนวณและการเชื่อมต่อทางสังคม” Zuckerberg กล่าว
จากรายงานทางการเงินเมื่อช่วงต้นปี 2022 พบว่า แผนก Reality Labs ขาดทุนประมาณ หมื่นล้านดอลลาร์และตลอดทั้งปี 2021 ที่ผ่านแผนกนี้ก็ได้ขาดทุนประมาณ 4 พันล้านดอลลาร์จากต้นทุนพนักงานและการวิจัยและพัฒนา
โดยรวมแล้ว บริษัทมีรายได้รวมในไตรมาส 1 ปี 2022 อยู่ที่ 2.79 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6.9% จาก 2.61 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปีที่แล้ว ซึ่งรายงานผลประกอบการรายไตรมาสของ Meta ได้รับการตอบสนองอย่างดีจากตลาดหุ้น โดยราคาหุ้นของ Meta ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 18% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการ
การเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ของบริษัท Meta ทำให้มีจำนวนพนักงานเพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยมีพนักงานอยู่ที่ 77,805 คนในปัจจุบัน
ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Meta ประสบปัญหาครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยที่มูลค่าหุ้น 251,000 ล้านดอลลาร์ถูกลบออกจากมูลค่าตลาดของบริษัท โดยความผิดพลาดส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก การที่บริษัทมีจำนวนผู้ใช้งานรายวันลดลงประมาณ 1 ล้านคน