Arthur Hayes ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีต CEO ของเว็บเทรดอนุพันธ์คริปโต “BitMEX” คาดการณ์ว่าราคาของ Bitcoin จะพุ่งสูงแตะ 1 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 หรือในอีก 8 ปีข้างหน้า
ตามบล็อกโพสต์ ล่าสุด Hayes คาดการณ์ว่าราคา Bitcoin จะพุ่งสูงถึง 1 ล้านดอลลาร์ภายในทศวรรษนี้ ซึ่งเขาตั้งข้อสังเกตถึงนัยสำคัญจากการคว่ำบาตรของรัสเซียที่ได้มีการรุกรานยูเครน เนื่องจากว่าสิ่งนี้จะส่งผลให้เศรษฐกิจของสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ หวนกลับคืนสู่สภาพปกติ
Hayes คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อจะยังคงเลวร้ายลงต่อไปสำหรับประเทศตะวันตก ซึ่งแตะจุดสูงสุดในรอบ 40 ปีอันเนื่องมาจากความขัดแย้งในยูเครน นอกจากนี้เขายังชี้ให้เห็นถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจในด้านอื่น ๆ เช่น อุปทานที่หยุดชะงักและอิทธิพลของประเทศจีนที่มีต่อหนี้ของตะวันตก
Hayes กล่าวว่านักลงทุนจะเริ่มมองหา “สินค้าโภคภัณฑ์ที่เก็บรักษามูลค่า” เช่น Bitcoin และทองคำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Hayes คาดว่าจีนจะหันมาสนใจใน Bitcoin เนื่องจากกลัวว่า EUR/USD อาจมีส่วนแบ่งในสายงานผลิตมากขึ้นในอนาคต
การคาดการณ์ราคา Bitcoin ในแง่บวกของ Hayes ดูเหมือนจะเป็นการเดิมพันไปกับการล่มสลายของสหภาพยุโรปและ “ความหายนะ” ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเขาเชื่อว่าเมื่อถึงจุด ๆ หนึ่ง อัตราเงินเฟ้อจะมาถึงจุดสูงสุด และธนาคารกลางจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหันไปใช้การควบคุมอัตราผลตอบแทน (YCC) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการป้องกันการล้มละลาย และนี่จะถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญสำหรับ Bitcoin
“เมื่อ YCC เกิดขึ้นนั้นจะเป็นช่วงที่ราคา Bitcoin มีมูลค่าสูงถึง 1 ล้านดอลลาร์ และทองคำจะไปถึง 10,000 – 20,000 ดอลลาร์”
นอกจากนี้ Arthur Hayes ยังให้ความเห็นด้วยว่า ราคาของ Bitcoin ที่เติบโตเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาส่งผลให้เกิด “พฤติกรรม HODL” ของนักลงทุน โดยเขาชี้ให้เห็นว่าแนวคิดนี้เริ่มเป็นที่นิยมในหมู่แฟน ๆ Bitcoin ที่มุ่งมั่นไม่ขายเหรียญและถือต่อไปในระยะยาว แม้ว่าราคาของเหรียญจะร่วงลดลงก็ตาม
ที่มา : cryptoglobe