<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

สวรรค์ของนักลงทุน ! เผยรายชื่อประเทศปลอดภาษีคริปโต ประเทศไทยจะเป็นหนึ่งในนั้นหรือไม่ ?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

หลายคนอาจจะรู้สึกเหนื่อยกับการคิดว่า ถ้าเทรดคริปโตแล้วจะต้องเสียภาษี ก็ไม่อยากเสียภาษีเลย หรือบางคนรู้สึกสงสัยว่า ถ้าหากอยากจะไปเทรดคริปโตโดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องภาษีจะไปที่ไหนได้บ้าง

ในวันนี้ทางสยามบล็อกเชนจึงได้รวบรวมประเทศบางส่วนที่เรียกได้ว่า เป็นประเทศที่นักเทรดคริปโตสามารถเทรดกันได้อย่างสบายใจไม่ต้องกังวลเรื่องภาษีคริปโตกันอีกต่อไป

แต่บางประเทศนั้นก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องภาษีบ้างแล้วอย่างไรก็ตาม น่าจับตามองว่ามุมในกฎหมายภาษีในประเทศไทยจะเป็นอย่างไรในอนาคต

โดยเราจะมาเริ่มกันที่ประเทศแรกที่ไม่เสียภาษีด้านคริปโตกันเลย

เบลารุส

เบลารุสเป็นประเทศที่ผู้นำประเทศสนับสนุนคริปโต โดยกฎหมายปลอดภาษีคริปโตเริ่มขึ้นในเดือนมีนาคม 2018 ที่ทางรัฐได้ออกกฎหมายใหม่ในเบลารุส อนุญาตกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโต โดยกฎหมายระบุว่า ให้ยกเว้นบุคคลและองค์กรที่เกี่ยวข้องจากการเสียภาษีจนถึงปี 2023 ก่อนที่ทางการจะพิจารณาแผนภาษีอีกครั้ง

ในด้านของการขุดและการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลรัฐบาลของเบลารุสก็จัดให้เป็นประเภทการลงทุนส่วนบุคคล ภายใต้กฎหมายและปลอดจากภาษีเงินได้และกำไรจากการลงทุน 

ด้วยการเคลื่อนไหวนี้เบลารุสต้องการส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลและต้องการที่จะกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่ปลอดภาษีคริปโต

อย่างไรก็ตามสำหรับใครที่อยากไปอยู่ที่ประเทศเบลารุส อาจจะต้องกังวลในเรื่องของภาษีที่อยู่อาศัยแทน

ภาษีที่อยู่อาศัย

ผู้ที่เข้ามาอยู่ในประเทศเกินกว่า 183 วันในหนึ่งปี จะถูกพิจารณาให้เป็นผู้เสียภาษีจากการที่เป็นผู้ที่มีถิ่นที่อยู่อาศัยในเบลารุส หรือที่สำคัญกว่านั้นคือ หากผู้ที่เข้ามาไม่ได้เสียภาษีที่อยู่ในประเทศอื่น ก็จะต้องเสียภาษีที่นี่เช่นกัน

หมู่เกาะเคย์แมน

หมู่เกาะเคย์แมนเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่มีชื่อเสียงระดับโลก เพราะหมู่เกาะดังกล่าวนั้นมีชื่อเสียงมาตลอดว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีความคิดสร้างสรรค์และเป็นมิตรกับคริปโตมากที่สุดในโลก มีระเบียบข้อบังคับที่มุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมบริการทางการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมที่ให้บริการแก่นักลงทุนสถาบันที่มีความซับซ้อนและจากเขตอำนาจศาลอื่น นอกจากนี้ยังโดดเด่นในฐานะหนึ่งในประเทศที่ปลอดภาษีคริปโตที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

รัฐบาลของหมู่เกาะเคย์แมนไม่ได้กำหนดรายได้ มรดก ของกำนัล การเพิ่มทุน บริษัท ภาษีหัก ณ ที่จ่าย หรือภาษีอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน รวมถึงการออก การถือ หรือการโอนสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งตอบโจทย์สำหรับนักลงทุนหรือนักเทรดคริปโตที่ต้องการจะเปลี่ยนบรรยากาศ 

เอลซัลวาดอร์

เอลซัลวาดอร์เป็นประเทศแรกในละตินอเมริกาที่ทำให้ Bitcoin เป็นสกุลเงินที่ถูกกฏหมายในเดือนกันยายน ปี 2021 พร้อมเสนอซอฟต์แวร์กระเป๋าเงินดิจิทัลที่ออกให้โดยรัฐบาล และอนุญาตให้ผู้ใช้ใช้ Bitcoinในการทำธุรกรรมทั้งหมด (ควบคู่ไปกับการชำระเงินด้วยดอลลาร์สหรัฐ)

ซึ่งพลเมืองสามารถชำระหนี้และภาระผูกพัน ที่แสดงเป็นดอลลาร์สหรัฐ โดยการใช้ Bitcoin ได้

ในเอลซัลวาดอร์ การแลกเปลี่ยน bitcoin เช่นเดียวกับการประมูลทางกฎหมายอื่น ๆ จะได้รับการยกเว้นภาษีกำไรจากการขาย ทั้งหมดนี้ทำให้ประเทศนี้เป็นหนึ่งในที่สถานที่หลบเลี่ยงภาษีคริปโต ที่ดีที่สุด

ภาษีที่อยู่อาศัย

ในเอลซัลวาดอร์ ผู้อาศัยอยู่ในประเทศจะได้รับการพิจารณาว่าเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ทางภาษี หากคุณใช้เวลาในประเทศมากกว่า 200 วันในระหว่างปี ทั้งแบบชั่วคราวหรือถาวร หรือแหล่งรายได้หลักของคุณอยู่ในประเทศเอลซัลวาดอร์

เยอรมัน

ในเยอรมัน สกุลเงินดิจิทัล (คริปโต) นับว่าเป็นสินทรัพย์ส่วนตัว ซึ่งหมายความว่า คุณจะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามากกว่าภาษีกำไรจากการขายหลักทรัพย์ สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือ เยอรมันนีจะเก็บภาษีเฉพาะสกุลเงินดิจิทัล หากขายได้ภายในปีเดียวกับที่ซื้อ นอกจากนี้ กำไรที่ได้จากการขายสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าสูงถึง €600 ต่อปีปฏิทินนั้นจะไม่ต้องเสียภาษีอีกด้วย

ในขณะที่การเทรดระยะสั้น การขุด และการ Stake จะถูกเรียกเก็บภาษีในเยอรมนี กฎภาษีคริปโตนั้นเปิดกว้างมากกว่าในประเทศอื่น ๆ นี่เป็นเพราะความจริงที่ว่า bitcoin และ cryptocurrencies อื่น ๆ ไม่จัดเป็นทรัพย์สินภายใต้กฎหมายภาษีของเยอรมัน

ภาษีที่อยู่อาศัย

การอาศัยอยู่ในเยอรมันนีเป็นเวลานานกว่าหกเดือนหรือไม่นั้น จะเป็นตัวกำหนดถิ่นที่อยู่ของผู้เสียภาษีในเยอรมนี หากคุณเป็นพลเมืองสหภาพยุโรป คุณมีอิสระที่จะย้ายไปเยอรมนีและตั้งถิ่นฐานได้ ส่วนผู้ที่ไม่ใช่ชาวยุโรปสามารถยื่นขอวีซ่าพำนักและพำนักอาศัยได้

มอลตา

มอลตาเป็นประเทศที่เรียกได้เลยว่าเป็นสวรรค์ของนักเทรดคริปโดตในด้านกฎหมายการเก็บภาษีของสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Bitcoin และเหรียญคริปโตตัวอื่น ๆ

ซึ่งหมายความว่า คุณจะไม่ต้องจ่ายภาษีกำไรที่ได้จากการขาย bitcoin  ไม่ว่าจะได้กำไรเท่าจากการเทรดก็ตาม  

ในทางกลับกันการซื้อขายคริปโต นั้นถูกนำมาเปรียบเทียบกับการซื้อขายหลักทรัพย์หรือหุ้นรายวัน เป็นผลให้พวกเขาต้องเสียภาษีเงินได้ของธุรกิจ 35% อย่างไรก็ตาม นักลงทุนมีทางเลือกอื่นในการจัดโครงสร้างภายในระบบภาษีของมอลตาที่อนุญาตให้คุณลดอัตราภาษีนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่คุณทำและที่คุณอาศัยอยู่ สิ่งนี้ทำให้มอลตาเป็นหนึ่งในประเทศปลอดภาษีคริปโตที่ดีที่สุด

ภาษีที่อยู่อาศัย

ผู้อยู่อาศัยทั่วไปเป็นตัวกำหนดถิ่นที่อยู่ของผู้เสียภาษี พลเมืองนอกสหภาพยุโรป/EEA/สวิส สามารถย้ายไปมอลตาได้ ในขณะที่พลเมืองของสหภาพยุโรป/EEA/สวิสไม่สามารถย้ายได้ตามกฎ 183 วัน หรือระยะเวลาสูงสุดที่สามารถอาศัยได้ในประเทศหนึ่งๆ ต่อจากนั้น ภาระภาษีเงินได้ของคุณจะมีผลบังคับใช้

โปรตุเกส

โปรตุเกสถือเป็นศุนย์กลางด้านคริปโตและยังเป็นหนึ่งในประเทศที่ดีที่สุดที่เพราะว่า โปรตุเกสเป็นประเทศปลอดภาษีคริปโต  อีกทั้งประเทศเป็นผู้นำสหภาพยุโรป ด้วยแนวโน้มภาษีที่ดีและรัฐบาลที่ทรงพลัง

หากคุณต้องการหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีคริปโต โปรตุเกสถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรป ตั้งแต่ปี 2018 รายได้ทั้งหมดจากการขายสกุลเงินดิจิทัลไม่ต้องเสียภาษี ยิ่งไปกว่านั้น การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลไม่ถือเป็นรายได้จากการลงทุน ดังนั้นจึงไม่ต้องเสียภาษีเช่นกัน

ในโปรตุเกส คริปโตยังได้รับการยกเว้นภาษีจากภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีเงินได้ด้วย

อย่างไรก็ตาม จากรายงานล่าสุด ดูเหมือนเหมือนว่าประเทศโปรตุเกสจะไม่ใช่ประเทศที่ปลอดภาษีคริปโตอีกต่อไปแล้วเพราะว่า ทางรัฐบาลมีแนวโน้มจะเรียกเก็บภาษีคริปโตอยู่ที่ 28%

สวิตเซอร์แลนด์

ประเทศนี้ไม่ถือว่าปลอดภาษีไปซะเสียทีเดียวเพราะว่า อุตสาหกรรมการขุดคริปโตยังคงต้องเสียภาษีรายปีสำหรับกำไรที่ได้จากการขุด โดยอัตราภาษีความมั่งคั่งนั้นแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าผู้เทรดอาศัยอยู่ที่ภูมิภาคไหนของประเทศ

แต่กำไรจากการจากการเทรดคริปโตนั้นจะไม่ถูกจัดรวมอยู่ในภาษี ด้วยสิ่งนี้จึงส่งผลให้นักลงทุนจำนวนมากสามารถขายและแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลโดยไม่ต้องเสียภาษี

ภาษีที่อยู่อาศัย

หากตัดสินใจที่จะอาศัยในประเทศสวิตเซอร์แลนด์หรืออาศัยอยู่เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 30 วันในขณะที่กำลังมองหางานหรืออย่างน้อย 90 วันโดยไม่ได้หางาน จะถือว่ามีถิ่นที่อยู่ของผู้เสียภาษีชาวสวิสผู้พำนักในสหภาพยุโรปและพลเมืองนอกสหภาพยุโรปมีใบอนุญาตและเกณฑ์การพำนักประเภทต่างๆ ที่แตกต่างกัน

เปอร์โตริโก้

เปอร์โตริโกถือเป็นดินแดน (territory) ของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยอยู่ในฐานะเป็นเครือรัฐ ไม่ได้เป็นรัฐ (state) ทำให้เหล่าเศรษฐีบิทคอยน์ชาวอเมริกัน เดินทางเข้า-ออกได้สะดวก ไม่ต้องมีพาสปอร์ต ไม่ต้องทำวีซ่า ไม่มีภาระการทำเอกสารย้ายถิ่นพำนักที่ยุ่งยาก ซับซ้อน

เมื่อเทียบกับภาษีเงินได้ของรัฐบาลกลางของสหรัฐฯ ชาวเปอร์โตริกันจ่ายภาษีเงินได้ของดินแดนที่ต่ำกว่ามาก ยิ่งไปกว่านั้น สินทรัพย์ดิจิทัลที่ซื้อขณะอาศัยอยู่ในเปอร์โตริโกจะไม่รวมอยู่ในภาษีกำไรจากการขาย

นั้นหมายความว่า คุณจะจ่ายภาษีหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับวันที่คุณซื้อสกุลเงินดิจิทัล หากคุณเป็นพลเมืองสหรัฐฯ ที่ซื้อคริปโตก่อนที่จะย้ายไปเปอร์โตริโก คุณจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านภาษีคริปโต ของ IRS อย่างไรก็ตาม แต่ถ้่าหากคุณซื้อสกุลเงินดิจิทัลหลังจากตั้งถิ่นฐานในเปอร์โตริโกแล้วการซื้อขายคริปโตจะไม่ต้องเสียภาษี

ภาษีที่อยู่อาศัย

หากใช้เวลา 183 วันในเปอร์โตริโกใน 1 ปี ผู้อยู่อาศัยจะได้รับการพิจารณาให้เป็นผู้อยู่อาศัย นอกจากนี้ หากได้รับรายได้จากบริการที่มีให้ในเปอร์โตริโก ก็มีความเป็นไปได้ที่จะต้องเสียภาษี แม้ว่าจะไม่ได้อยู่แสดงตัวเป็นเวลาอย่างน้อย 183 วันก็ตาม

มาเลเซีย

การทำซื้อขาย โอน ถือครองคริปโตนั้นปลอดภาษีสำหรับนักลงทุนรายย่อยในประเทศมาเลเซีย เพราะว่าคริปโตไม่ถือว่าเป็นสินทรัพย์ทุนหรือเงินตามกฎหมายในประเทศ

อย่างไรก็ตามมีข้อกำหนดว่า ธุรกรรมของคริปโตจะปลอดภาษีก็ต่อเมื่อไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยหรือซ้ำซาก ตามที่คณะกรรมการสรรพากรของมาเลเซียระบุ หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ หากนักเทรดที่ชอบเทรดรายวันไม่เน้นถือยาวแล้วละก็ ก็ยังจำเป็นที่จะต้องเสียภาษีอยู่ใ นทำนองเดียวกันธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโต ก็จะต้องเสียภาษีเงินได้ตามเดิม

สิงคโปร์

กฎหมายด้านภาษีของสิงคโปร์ เป็นผลให้ไม่ต้องจ่ายภาษีกำไรที่ได้จากการเทรดคริปโตภายในประเทศ

การใช้จ่าย crypto ในสินค้าและบริการถูกมองว่าเป็นข้อตกลงการแลกเปลี่ยนมากกว่าการชำระเงิน เป็นผลให้การใช้เหรียญเพื่อชำระเงินนั้นจะไม่ต้องเสียภาษี แต่ในขณะเดียวกันการใช้ผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้องกับคริปโตยังคงต้องเสียภาษี

ภาษีที่อยู่อาศัย

หากอาศัยหรือทำงานในสิงคโปร์เป็นเวลาอย่างน้อย 183 วันในหนึ่งปี จะถือว่าเป็นผู้อาศัยในประเทศสิงคโปร์

สรุป

ประเทศที่ถือเป็นสวรรค์ของนักลงทุน และปลอดภาษีคริปโตมีมากมายหลายประเทศ แต่ในขณะเดียวกันก็มีบางประเทศก็ไม่ได้ปลอดภาษีเสียทีเดียวแต่เพราะด้านอุตสาหกรรมการขุดคริปโตก็ยังมีหลายประเทศที่มีความเห็นชอบว่าควรให้เก็บภาษี

ด้านประเทศไทยเองในตอนแรกก็มีการเก็บภาษี ซึ่งนั่นอาจจะทำให้นักเทรดหลายคนรู้สึกไม่อยากเทรดขึ้นมาและต่อมาก็มีการปรับแก้ไขกฎหมายตามความเหมาะสมในปัจจุบัน ซึ่งสิ่งนี้อาจทำให้ประเทศไทยในอนาคตเป็นหนึ่งในประเทศในภูมิภาคเอเชียที่เป็นประเทศปลอดภาษีคริปโตและยอมรับคริปโตในวงกว้างมากขึ้น

และในปัจจุบันเองมีผู้เชี่ยวชาญด้านคริปโตหลายคนได้ออกมาพูดเรื่องภาษีคริปโตในประเทศไทยควรจะเป็นศูนย์ ซึ่งหมายถึงว่าประเทศไทยควรเป็นประเทศที่ปลอดภาษีนั่นเอง โดยผู้พูดก็คือ ด.ร.ธรรม์ธีร์ สุกโชติรัตน์ ได้เคยออกมาบอกว่าการจะเก็บภาษีคริปโตนั้นสิ่งนี้อาจจะทำให้ประเทศสูญเสียรายได้ไปมากกว่า 1.04 พันล้านบาทกันเลยทีเดียว

ซึ่งในจุด ๆ  นี้ผู้เขียนมีมุมมองว่า หากในอนาคตประเทศไทยสามารถกลายเป็นประเทศปลอดภาษีได้จริง ๆ นั้นอาจจะเป็นอีกหนึ่งนิมิตหมายอันดีที่ทำจะทำให้คนในประเทศไทยหันมาลงทุนกันมากขึ้นและนั่นก็จะเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้ประเทศสามารถพัฒนาก้าวทันเทคโนโลยีได้ในอนาคต