“ในสภาวะตลาดปัจจุบัน ผู้คนจำนวนมากมองว่า USDC เป็นเหรียญที่ปลอดภัยและเป็นที่ต้องการมากกว่า” Edward Moya นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ Oanda กล่าวในระหว่างให้สัมภาษณ์กับ Coindesk
USDC ซึ่งเป็นเหรียญ Stablecoin ที่ใหญ่เป็นอันดับสองได้รับส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นอย่างมาก นับตั้งแต่เหรียญ UST ที่มีมูลค่าตลาด 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พังทลายลงและส่งผลทำให้เกิดความผันผวนขึ้นกับเหรียญ USDT เมื่อไม่นานมานี้
ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์ด้านบล็อคเชน CoinMetrics พบว่า จำนวนกระเป๋าเงินบน Ethereum ที่ถือเหรียญ USDC มูลค่ามากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ขึ้นไป มีจำนวนแซงหน้าจำนวนกระเป๋าเงินที่ถือ USDT ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
CoinMetrics สังเกตเห็นว่า เมื่อ UST ประสบปัญหามูลค่าหลุด Peg กระเป๋าเงิน Ethereum จำนวน 147 ใบก็ได้เพิ่มการถือครองเหรียญ USDC มูลค่าอย่างน้อย 1 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่การถือครองเหรียญ USDT ของพวกเขาลดลงมูลค่าอย่างน้อย 1 ล้านดอลลาร์
ในบรรดากระเป๋าเงินเหล่านี้มีกระเป๋าเงินจำนวนกว่า 23 ใบที่เพิ่มการถือครองเหรียญ USDC มูลค่าอย่างน้อย 10 ล้านดอลลาร์ และมีการถือครองเหรียญ USDT ลดลงมูลค่ากว่า 10 ล้านดอลลาร์ ซึ่งกระเป๋าเงินเหล่านี้หลายใบเป็นเจ้าของโดยเว็บเทรดคริปโต ผู้ให้บริการดูแลรับฝากสินทรัพย์ หรือโปรโตคอลทางการเงินแบบกระจายอำนาจ รายงานกล่าวระบุ
รายงานยังสังเห็นถึงความได้เปรียบของ USDC ที่เหนือกว่า USDT ของ Tether ในแง่ของจำนวนโทเค็นที่นักลงทุนถือครอง (free float supply) บน Ethereum blockchain ที่พุ่งแตะจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันอังคาร
Kyle Waters นักวิเคราะห์จาก CoinMetrics กล่าวว่า “สิ่งนี้สะท้อนถึงความจริงที่ว่า โดยทั่วไปแล้วมีเพียงผู้ถือเหรียญรายใหญ่เท่านั้นที่ได้รับสิทธิพิเศษในการแปลงเหรียญ USDT และ Mint USDC ขึ้นมาใหม่เพื่อกินส่วนต่างในช่วงที่ตลาดเกิดความผันผวน” Kyle Waters นักวิเคราะห์จาก CoinMetrics เขียนระบุในรายงาน
USDT ได้รับความเดือดร้อนจากนักลงทุนที่แห่ถอนเงิน ในช่วงที่ตลาดเกิดความตื่นตระหนก โดยรวมแล้วคิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ การแห่ถอนเงินครั้งนี้ทำให้อุปทานหมุนเวียนโดยรวมของเหรียญ USDT ลดลงเหลือ 73,000 ล้านดอลลาร์จาก 83,000 ล้านดอลลาร์ภายใน 10 วัน ในช่วงเวลาเดียวกัน อุปทานเหรียญของ USDC กลับเพิ่มขึ้นเป็น 53,000 ล้านดอลลาร์จาก 48,000 ล้านดอลลาร์
ที่มา : coindesk