<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

4 ขั้นตอนที่จะช่วยให้คุณเดินออกจากตลาดได้อย่างสมบูรณ์แบบ หลังจากจบช่วง Bullrun

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ทุกคนคงทราบกันดีว่า ตลาดคริปโตมี cycle ของตัวเองไม่ต่างจากตลาดอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อตลาดคริปโตเข้าสู่ช่วงกระทิงแบบเต็มตัว นักเทรดและนักลงทุนส่วนใหญ่ที่เข้าสู่ตลาดมักจะลังเลว่าควรขายหรือควรถือต่อไป เพราะไม่มั่นใจว่าตลาดมาถึงจุดสูงสุดแล้วหรือไม่

หนึ่งในคนที่เคยมีประสบการณ์แนวนี้เช่นเดียวกับหลาย ๆ คน คือผู้ใช้ Reddit ที่ใช้นามแฝงว่า LelxDing ดังนั้นเขาจึงพยายามวิเคราะห์ตลาดคริปโต นับตั้งแต่จุดเริ่มต้นมาจนถึงตอนนี้ เพื่อคิดค้นวิธีที่จะช่วยให้เขาสามารถ “เดินออกจากตลาดกระทิงในช่วงที่ราคามาถึงจุดสูงสุด” ได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด

ในบทความนี้ทางสยามบล็อกเชนจะพาทุกคนมาสำรวจเคล็ดลับในการออกจากตลาด ท่ามกลางช่วงขาขึ้นของ LelxDing แล้วมาดูกันว่าแนวคิดเหล่านี้จะเหมาะสมสำหรับพอร์ตของเพื่อน ๆ หรือไม่

ขั้นตอนที่ 1: สร้างพอร์ตติดตามผลการขาย

ขั้นตอนแรกคือ การสร้างพอร์ตใหม่ใน Coingecko หรือ Coinmarketcap โดยพอร์ตใหม่นี้ คือพอร์ตที่ใช้เพื่อติดตามการขายโดยเฉพาะ ในขณะที่พอร์ตหลักของเราจะใช้เพื่อติดตามมูลค่าการลงทุนทั้งหมด โดยเมื่อเริ่มขายเหรียญแล้ว (จะอธิบายในขั้นตอนถัดไป) อย่าบันทึกการขายในพอร์ตสำรองนี้ ให้บันทึกเฉพาะในพอร์ตหลักเท่านั้น โดยวิธีนี้จะช่วยให้เราสามารถติดตามสัดส่วนการขายเหรียญที่ถูกต้องได้

ขั้นตอนที่ 2: จะเริ่มขายเมื่อไร?

ขั้นตอนนี้ไม่มีสูตรตายตัว แต่ LelxDing แนะนำว่า เขาจะเริ่มขายเหรียญในช่วง 1 เดือน หลังจากที่ราคาเหรียญนั้นทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาล (ATH) อย่างไรก็ตาม เขายืนยันว่า ทุกคนสามารถปรับเปลี่ยนช่วงเวลานี้ได้ตามต้องการ แต่ข้อมูลที่เหลือในบทความของเขาจะใช้ช่วงเวลาหนึ่งเดือนหลังจากจุด ATH

ขั้นตอนที่ 3: ประเมินระยะเวลาของช่วง Bull run

LelxDing ได้ประเมินระยะเวลาของ cycle ตลาดกระทิงที่ผ่านมาทั้ง 3 รอบ จากวันที่ราคาเหรียญแตะจุด ATH ทั้ง 3 ครั้ง โดยข้อมูลที่เขาค้นพบมีรายละเอียดดังนี้

Bull run ครั้งที่ 1 (2013) กินระยะเวลาทั้งสิ้น 272 วัน

Bull run ครั้งที่ 2 (2017) กินระยะเวลาทั้งสิ้น 230 วัน

Bull run ครั้งที่ 3 (2021) กินระยะเวลาทั้งสิ้น 348 วัน

จากตลาดกระทิงทั้ง 3 ครั้งที่ผ่านมา LelxDing สันนิษฐานว่า ตลาดกระทิงครั้งต่อไปอาจจะมีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงคำนวณค่าเฉลี่ยของระยะเวลาของรอบตลาดกระทิงที่ผ่านมา 3 รอบ ได้เท่ากับ 283 วัน หักออกด้วยเวลา 1 เดือนที่เราจะรอหลังจากที่ราคาเหรียญแตะจุด ATH ก็จะได้เท่ากับ 262 วัน ซึ่งนี่คือระยะเวลาที่เราจะใช้ในการขายเหรียญ

ขั้นตอนที่ 4: ขายเหรียญตามกลยุทธ์

ในขั้นตอนนี้ LelxDing จะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ต้องขายเหรียญต่อวัน เพื่อให้ขายเหรียญออกไปให้ได้ทั้งหมด 100% ภายใน 262 วัน

“100% / 262 = 0.38% นี่คือจำนวนเปอร์เซ็นต์ที่ต้องการขายต่อวัน เพื่อให้ขายเหรียญได้ทั้งหมด 100%” LelxDing กล่าว

จากวิธีของ LelxDing การคำนวณเปอร์เซ็นต์การขายเหรียญต่อวัน คือ นำ 100% (เปอร์เซ็นต์การขายเหรียญทั้งหมด) หารด้วย 262 (ระยะเวลาในการขายเหรียญ) ซึ่งจะได้เท่ากับ 0.38% นั่นหมายความว่า เราจะต้องขายเหรียญออกไป 0.38% ต่อวัน เพื่อให้สามารถขายเหรียญออกไปได้ทั้งหมดภายใน 262 วัน

อย่างไรก็ตาม LelxDing ไม่แนะนำให้ขายเหรียญครั้งละ 0.38% ทุกวัน แต่ให้เริ่มนับเปอร์เซ็นต์การขายเหรียญในช่วงหนึ่งเดือน หลังจากที่ราคาเหรียญแตะจุด ATH และให้สะสมเปอร์เซ็นต์การขายเหรียญเพิ่มขึ้นในทุก ๆ วัน ตัวอย่างเช่น วันที่ 1 ขาย 0.38%, วันที่ 2 ขาย 0.76% เป็นต้น

LelxDing แนะนำว่าให้สะสมเปอร์เซ็นต์การขายเหรียญไปจนกว่าจะถึงวันที่เห็นสีเขียวทั่วทั้งตลาด (เช่นวันที่ราคาเหรียญพุ่งขึ้นประมาณ 10-20% ในวันเดียว) โดยหลังจากที่ขายเหรียญได้ทั้งหมดตามจำนวนเปอร์เซ็นต์ที่สะสมมาแล้ว ให้รีเซ็ตเปอร์เซ็นต์การขายเหรียญกลับเป็น 0

ทำไมต้องสร้างพอร์ตสำรอง?

ในส่วนท้ายของโพสต์ LelxDing ได้อธิบายเหตุผลที่เขาสร้างพอร์ตสำรองขึ้นมาอีกอันหนึ่ง โดยกล่าวว่าเขาใช้พอร์ตสำรองในการติดตามสัดส่วนการขายเหรียญที่ถูกต้อง เนื่องจากหากเราขายเหรียญในพอร์ตหลักไปเรื่อย ๆ สัดส่วนการถือครองเหรียญในพอร์ตจะเปลี่ยนไป

ตัวอย่างเช่น หากเรามี Bitcoin 1 เหรียญ เราขาย Bitcoin ออกไป 50% แล้วหลังจากนั้น เราก็ขาย Bitcoin ออกไปอีก 50% ในวันถัดไป หมายความว่าเราจะเหลือ Bitcoin 0.25 เหรียญ ซึ่งไม่เท่ากับการขาย Bitcoin ออกไปทั้งหมด 100%

ดังนั้นถ้าหากเรามีพอร์ตที่ไม่ได้บันทึกการขายเหรียญ เราก็สามารถใส่จำนวนเงินเป็นดอลลาร์ลงไปในพอร์ตที่สองแทนได้ ตัวอย่างเช่น ในวันแรกใส่เงิน 5% ลงไป จากนั้นในวันถัดไปใส่เงินอีก 5% ลงไป เป็นต้น ซึ่ง LelxDing แนะนำว่าวิธีนี้จะช่วยให้เราสามารถขาย Bitcoin ไปได้ทั้งหมด 10% อย่างแน่นอน และช่วยให้การคำนวณง่ายขึ้นมาก

อย่ากลัวตลาดสีแดง

อย่างไรก็ดี ในช่วง 100 วันสุดท้าย LelxDing คาดการณ์ว่าเราอาจจะต้องขายเหรียญในวันที่ราคาเหรียญเริ่มปรับลดลง แต่เขาก็ได้แนะนำว่า “ไม่ต้องกลัว” เพราะหากเราต้องการขายเหรียญออกไปได้กำไรทั้งหมด ก็ไม่ควรเสียเวลาไปกับการพยายามเลือกสรรวันที่จะขายมากเกินไป โดย LelxDing เปรียบเทียบกลยุทธ์การขายเหรียญแบบนี้กับการลงทุนด้วยวิธี DCA (Dollar-Cost Average) โดยกล่าวว่า เราสามารถใช้กลยุทธ์การขายเหรียญแบบนี้เพื่อ DCA ออกจากตลาดได้เช่นกัน

ที่มา: reddit