เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม Charles Hoskinson ผู้ก่อตั้ง Cardano ได้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอนาคตของเครือข่ายในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์บนเวที ‘อนาคตของการกำกับดูแล Cardano ในยุคของวอลแตร์’ ที่งาน Rare Evo ซึ่งเป็นการประชุมบล็อกเชนและคริปโต ณ เมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา
Hoskinson เน้นย้ำถึงความสำคัญของ Cardano ในฐานะผู้นำด้านบล็อกเชน เนื่องจาก Cardano เป็นโปรเจกต์เดียวที่มีระบบ on-chain governance ในขณะที่ทั้ง Bitcoin และ Ethereum มีการกำกับดูแลแบบ off-chain governance โดย Hoskinson ให้เหตุผลว่าการกำกับดูแลแบบ on-chain เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความสำเร็จในระยะยาวของโปรเจกต์ บล็อกเชน เพราะเขาเชื่อว่านี่เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้แน่ใจว่าบล็อกเชนมีการกระจายอำนาจและเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
ตามมุมมองของเขา ระบบ off-chain governance ทำให้การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานดั้งเดิมเป็นไปไม่ได้ หมายความว่าการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่จำเป็นจะต้องนำไปใช้กับบล็อกเชนจะส่งผลให้เกิดการแยกเครือข่าย (fork) ซึ่งจะทำให้เครือข่ายที่แยกออกมานั้นดูไร้ประโยชน์สำหรับคนประเภท purists นอกจากนี้ การพึ่งพานักพัฒนาเพื่อให้ได้โครงสร้างที่ถูกต้องทุกแง่มุมตั้งแต่ครั้งแรกนั้น ถือเป็นความสำเร็จที่แทบจะไม่สามารถบรรลุได้
แนวคิดพื้นฐานเบื้องหลังบล็อกเชนคือการสร้างระบบที่ทำงานโดยไม่จำเป็นต้องได้รับความไว้วางใจจากผู้เข้าร่วม อย่างไรก็ตาม จากมุมมองของ Hoskinson นั้น Ethereum ไม่ได้พยายามที่จะรวมระบบ on-chain governance ซึ่งการขาดความพยายามในการกำกับดูแลทำให้ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มดังกล่าวสามารถรักษาฐานะบล็อกเชนที่โดดเด่นได้อย่างยั่งยืนโดยไม่ต้องมีการตรวจสอบ
Hoskinson อธิบายเสริมว่า Cardano ต่างจาก Ethereum ตรงที่เป้าหมายของ Cardano คือการกระจายอำนาจเต็มรูปแบบ โดยดำเนินการผ่านฉันทามติของผู้ใช้และการลงคะแนนเสียง แทนที่จะถูกควบคุมโดยฝ่ายเดียว เขารับทราบว่าแนวคิดนี้อาจดูน่ากลัวสำหรับบางคน แต่ก็เป็นสิ่งที่เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก เพื่อถอยห่างจากการมีลำดับชั้นบนลงล่างแบบเดิม ๆ โดยเขาชี้ให้เห็นว่าสิ่งนี้ “มันพรากอำนาจไปจากผู้คน” ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้หลายคนไม่กล้าที่จะกระจายอำนาจอย่างแท้จริง
ขณะเดียวกัน เขายังเน้นย้ำด้วยว่าจุดแข็งของ Cardano มาจากลักษณะการกระจายอำนาจ โดยเน้นความเชื่อของเขาที่ว่าบล็อกเชนจะครอบคลุมจุดประสงค์ที่นอกเหนือไปจากฟังก์ชันทางการเงินเพียงอย่างเดียว
Hoskinson จินตนาการว่า Cardano จะเป็น “สกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก” พร้อมกล่าวเสริมว่า
“ผมคิดว่ามันจะกลายเป็นมากกว่าสกุลเงินดิจิทัล ผมคิดว่ามันจะกลายเป็นกระดูกสันหลังของประเทศดิจิทัลแห่งใหม่ สังคมใหม่ สถานที่ที่เราสามารถไว้วางใจซึ่งกันและกันได้อีกครั้งในที่สุด Cardano จะเป็นแพลตฟอร์มที่ครอบคลุมการลงคะแนนเสียง เงิน และ ‘ทุกมิติและทุกแง่มุม’ ของชีวิตดิจิทัลของเรา”
แม้ว่าความท้าทายด้านเทคนิคยังคงอยู่ในระหว่างดำเนินการ แต่ Hoskinson ยืนยันว่าสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ เนื่องจากความท้าทายที่แท้จริงอยู่ที่การเปลี่ยนแปลงทางสังคมเพื่อใช้ประโยชน์จาก Cardano เพื่อทำให้โลกมีความเสมอภาคและยุติธรรมมากขึ้นสำหรับทุกคน โดย Hoskinson มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนว่าจะทำให้ Cardano เปลี่ยนไปสู่การกำกับดูแลแบบกระจายอำนาจเต็มรูปแบบ
ที่มา: zycrypto