CoinLedger บริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับการวิเคราะห์ภาษีคริปโตชื่อดัง ได้ออกมาคาดการณ์ว่า ราคา Bitcoin จะสามารถพุ่งขึ้นไปแตะ 360,000 ดอลลาร์ได้ในอีกหนึ่งปีหลังจากเหตุการณ์ Bitcoin Halving ที่กำลังจะมาถึงนี้
โดยเหตุการณ์ Bitcoin Halving คือเหตุการณ์ที่จำนวนผลตอบแทนที่ได้จากการขุดลดลงครั้งหนึ่งในทุกๆ ประมาณ 4 ปี ส่งผลให้จำนวนเหรียญที่ถูกผลิตออกมาใหม่ลดลงจนทำให้ตัวเหรียญขาดแคลน ก่อนที่จะผลักดันให้ราคาเหรียญเพิ่มขึ้นในเวลาต่อมา ซึ่ง Halving ครั้งถัดไปนั้นจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนเมษายน 2024
CoinLedger ได้เปิดเผยข้อมูลของเหตุการณ์ Halving ในอดีตว่า ราคา Bitcoin ในช่วงสามเดือนหลังจาก Halving ในปี 2016 ได้เพิ่มขึ้นจาก 650 ดอลลาร์ ขึ้นมาอยู่ที่ 722 ดอลลาร์ ในขณะที่ในปี 2020 ราคาเหรียญก็ได้เพิ่มขึ้นจาก 8,572 ดอลลาร์เป็น 11,393 ดอลลาร์
ซึ่งทางบริษัทได้ชี้ว่า การเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยของทั้งสองเหตุการณ์นี้อยู่ที่ประมาณ 21.95% และถ้าหากว่าการวิเคราะห์ของพวกเขาถูกต้อง สามเดือนหลังจาก Halving เกิดขึ้นในปีนี้จะผลักดันให้ราคา Bitcoin พุ่งขึ้นไปแตะ 84,145 ดอลลาร์
ข้อมูลในอดีตยังได้เปิดเผยอีกว่า ในอีกหกเดือนหลังจาก Halving ราคา Bitcoin ได้เพิ่มขึ้นมาเฉลี่ยอยู่ที่ 67.73% ซึ่งถ้าหากว่าราคา Bitcoin เป็นไปตามแนวโน้มนี้ ราคาเหรียญอาจพุ่งขึ้นไปสูงถึง 115,733 ดอลลาร์
สิ่งที่น่าสนใจคือ จากการอ้างอิงข้อมูลในช่วงปี 2016 และ 2020 หรือหนึ่งปีหลังจากที่เหตุการณ์ Halving ราคา Bitcoin มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยถึง 423% ซึ่งถ้าหากว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีกครั้ง ราคา Bitcoin จะพุ่งขึ้นไปมากถึง 361,152 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ในลักษณะดังกล่าวอาจไม่สามารถนำมาคำนวณสำหรับการคาดการณ์ในอนาคต เนื่องจากสภาวะตลาดที่แตกต่างกันอย่างมาก ทั้งนี้นักลงทุนควรที่จะศึกษาและประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี
ที่มา: Cryptonews