รายงานล่าสุดจาก Bitfinex ได้ออกมาชี้ว่าราคา Bitcoin อาจร่วงลงมาถึงจุดต่ำสุดแล้ว หลังเผชิญหน้ากับการเทขายครั้งใหญ่ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนที่จะร่วงลงไปแตะ 53,000 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา
โดยรายงานจาก นักวิเคราะห์ของ Bitfinex เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ได้ออกมาเปิดเผยว่า Bitcoin อาจร่วงลงมาถึงจุดต่ำสุดแล้ว แม้ว่า Mt.Gox จะยังไม่ได้คืนเงินให้เจ้าหนี้เกือบ 94,457 BTC ก็ตาม
ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ราคาเหรียญร่วงหนักนั้น Bitfinex ได้ชี้ว่ามาจากการเทขายจากหน่วยงานรัฐบาลเยอรมนี Bundeskrimanalamt (BKA) ที่ได้เริ่มขาย Bitcoin บนกระดานเทรด ส่งผลให้มีการเทขายจากนักลงทุนประเภทต่างๆ มากขึ้น
สิ่งที่น่าสนใจคือแม้ว่าจำนวน Bitcoin ที่ถูกโอนจากรัฐบาลเยอรมันนั้นจะมีมูลค่าเพียงเล็กน้อย แต่เมื่อเทียบเป็นสัดส่วนกับ Bitcoin ทั้งหมดที่ยึดมาได้ตั้งแต่ปี 2023 แล้ว การเทขายครั้งนี้ยังเป็นแค่ส่วนเล็กๆ เท่านั้น
เพราะเมื่อเทียบกับ Bitcoin มูลค่าเพียง 9 พันล้านดอลลาร์ ที่ถูกยึดและเทขาย และรวมถึงจากสหรัฐอเมริกาและเยอรมนีแล้ว จำนวนดังกล่าวคิดเป็นเพียง 4% ของมูลค่าตามราคาตลาดทั้งหมดในปี 2023
“แม้จะมีการเทขายจะมีมูลค่าสูงมาก แต่จำนวน Bitcoin ที่ถูกโอนไปยังกระดานเทรดจริงมีเพียงหลายร้อยล้านดอลลาร์เท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผลกระทบต่อตลาดจริงและอุปทานส่วนเกินจาก Bitcoin ที่รัฐบาลยึดมานั้นค่อนข้างน้อย”
นอกจากนี้ Bitcoin อาจมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจบ่งชี้ว่าจะมีการฟื้นตัวในเร็วๆ นี้ หลังอัตราผลกำไรจากผลผลิตที่ลดลง (SOPR) ประกอบกับอัตราการระดมทุนที่ติดลบ
โดย SOPR เป็นตัวชี้วัดทางการเงินที่ใช้วัดผลกำไรหรือขาดทุนที่เกิดขึ้นจริงในแต่ละวันของ Wallet ในกลุ่มนักลงทุนเฉพาะต่างๆ ซึ่งค่าดังกล่าวจะคำนวณจากการเปรียบเทียบมูลค่ารวมของเหรียญที่ใช้จ่ายทั้งหมดกับมูลค่าของเหรียญเหล่านี้เมื่อซื้อมาในตอนแรก
และจากการวิจัยของ Bitfinex พบว่า SOPR สำหรับผู้ถือระยะสั้นอยู่ที่ 0.97 เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ซึ่งบ่งชี้ว่านักลงทุนระยะสั้นยังไม่มีแนวโน้มที่จะขายขาดทุน
ในขณะเดียวกัน อัตราระดมทุนเฉลี่ยสำหรับคู่ซื้อขาย BTC perp ทั้งหมดก็พลิกกลับมาติดลบเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่จุดต่ำสุดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม
“ในอดีต ช่วงเวลาที่อัตราระดมทุนติดลบประกอบกับค่า SOPR ระยะสั้นที่ต่ำมักจะเป็นจุดที่ราคาปรับตัวลงต่ำสุด”
ที่มา: Cointelegraph