หลังจากอดีตปธน. Donald Trump ได้รับเชิญขึ้นไปพูดบนเวทีหลักของงาน Bitcoin conference 2024 ที่เมือง Nashville เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาได้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาต่าง ๆ ที่อุตสาหกรรมคริปโตต้องเผชิญอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลของ Joe Biden
ทว่าในช่วงท้ายของการพูด Trump ได้เปิดเผยนโยบายใหม่หากเขาได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีอีกสมัย ว่ารัฐบาลของเขาจะ “ไม่มีวัน” ขาย Bitcoin ออกไป และจะนำบิทคอยน์เพิ่มเข้ามาเป็นสินทรัพย์สำรองของประเทศ ซึ่งได้เรียกเสียงฮือฮาให้กับชาวคริปโตเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามล่าสุดเมื่อเร็ว ๆ นี้ทางรัฐบาลสหรัฐฯ ก็มีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นเช่นกัน โดยทาง Arkham สังเกตเห็นว่ามีการเคลื่อนย้าย Bitcoin ที่ยึดมาจากคดี Silk Road เกือบ 30,000 BTC ไปยังที่อยู่ใหม่ ซึ่งเหรียญทั้งหมดมีมูลค่ารวมกันมากถึง 2 พันล้านดอลลาร์
การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากการประกาศนโยบายใหม่ของ Trump ในการหาเสียง ทำให้ใครหลายคนคิดว่าทางเดโมแครตกำลังจะขัดขวางแผนการของ Trump ไม่ให้เป็นผลสำเร็จ และจะทำการเทขาย Bitcoin ออกจากคลัง เนื่องจากพวกเขานั้นมีจุดยืนที่ค่อนข้างเอนเอียงไปทางฝั่งต่อต้านคริปโต
David Bailey ซีอีโอของ Bitcoin Magazine เป็นหนึ่งในคนที่ได้ออกมาวิจารณ์ความเคลื่อนไหวดังกล่าว โดยระบุว่า หากรัฐบาลชุดนี้ทำการเทขาย Bitcoin จริงจะยิ่งทำให้หาคะแนนเสียงได้ยากลำบากขึ้น ซึ่งนี่เป็นความเคลื่อนไหวที่ไม่เข้าท่าเลยหากต้องการเพียงแค่จะเอาคืน Trump เช่นเดียวกันกับ Mike Novogratz CEO ของ Galaxy Digital ที่ออกกล่าวว่าพวกเขานั้น “โง่เง่า” ที่มาเลือกย้าย Bitcoin ในตอนที่ Trump พึ่งประกาศนโยบายไปไม่นาน
อย่างไรก็ตามทั้งคู่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกลุ่มคนที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ต่อเหตุการณ์นี้ เพราะจังหวะเวลาที่เคลื่อนย้าย Bitcoin นั้นย่ำแย่มาก ๆ ทำให้อดคิดไม่ได้ว่านี่เป็นการเอาคืนของฝั่งรัฐบาลเดโมแครต ซึ่งถ้าหากรัฐบาลทำการเทขาย Bitcoin จำนวนดังกล่าวจริง ๆ อาจทำให้ราคาของ Bitcoin มีความผันผวนเกิดขึ้นได้เห็นได้จากเมื่อเช้าวันนี้ที่ราคา Bitcoin ลดลงจาก $70,000 ลงมาเหลือเพียง 67,000 ดอลลาร์ หลังจากเรื่องดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมาไม่นาน
- ที่มา : Bitcoinist
- ภาพ : Financial Times