รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ได้ประกาศให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนแผนภาษีของประธานาธิบดีโจ ไบเดน หากได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี แผนดังกล่าวมีสาระสำคัญในการเพิ่มภาษีกำไรจากการขายสินทรัพย์ (capital gains tax) เป็น 44.6% และภาษีกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง (unrealized gains tax) เป็น 25%
หากแผนภาษีนี้ได้รับการอนุมัติ คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ ถึง 5 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงทศวรรษหน้า ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสามารถจัดการกับปัญหาการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้น และอาจเริ่มลดหนี้สาธารณะที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ มีรายงานล่าสุดว่าหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ได้ทะลุ 35 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการหามาตรการแก้ไขปัญหาทางการคลังของประเทศ
ใครจะได้รับผลกระทบจากการเก็บภาษีกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง ของ Kamala Harris ?
ที่น่าสังเกตคือ ภาษี 25% ที่ Biden เสนอ สำหรับกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง นั้นจะส่งผลต่อผู้เสียภาษีบุคคลธรรมดาที่มีสินทรัพย์สุทธิเกิน 100 ล้านดอลลาร์เท่านั้น
นอกจากนี้ ในการกำหนดโครงร่างแผนภาษีใหม่ Biden รับรองว่า บุคคลที่มีรายได้น้อยกว่า 400,000 ดอลลาร์ต่อปี จะไม่ต้องเผชิญกับการขึ้นอัตราภาษี
นโยบายนี้มุ่งสร้างความสมดุลที่เป็นธรรมมากขึ้นระหว่างบุคคลที่มีรายได้สูงจากรายได้ปกติและผู้ที่มีรายได้จากการลงทุน โดยมีเป้าหมายเพื่อให้มั่นใจว่าบุคคลที่มีฐานะร่ำรวยจะมีส่วนร่วมในการจ่ายภาษีอย่างเป็นธรรมมากขึ้น สอดคล้องกับกิจกรรมทางการเงินที่มีมูลค่าสูงของพวกเขา
นอกจากภาษีจากกำไรที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริงแล้ว แผนภาษีใหม่ยังรวมถึงการเพิ่มอัตราภาษีนิติบุคคลจาก 21% เป็น 28% ซึ่งจะช่วยให้งบประมาณของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอีก 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ในอีกสิบปีข้างหน้า
- ที่มา : finbold
- ที่มารูปภาพ : foxbusiness