ในขณะที่ Donald Trump กำลังเตรียมรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ มีรายงานจาก The New York Post ว่าเขากำลังให้ความสนใจแนวคิดสร้าง “Strategic Reserve” ซึ่งจะรวมคริปโตเคอร์เรนซีที่พัฒนาโดยบริษัทในสหรัฐฯ เช่น USD Coin (USDC), Solana (SOL) และ XRP อย่างไรก็ตาม ดูเหมือน Bitcoin อาจถูกกันออกจากโครงการนี้
รายงานเผยว่า Trump ได้พบปะกับ Brad Garlinghouse CEO ของ Ripple และ Stuart Alderoty ที่ปรึกษากฎหมายของบริษัท โดย Garlinghouse ได้โพสต์ภาพจากงานเลี้ยงอาหารค่ำพร้อมระบุว่าเป็น “จุดเริ่มต้นที่แข็งแกร่งของปี 2025”
แนวคิดนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องจากคำสัญญาของ Trump ในการประชุม Bitcoin 2024 ที่เมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี ว่าเขาจะไม่ขาย Bitcoin ที่รัฐบาลถือครอง พร้อมยืนยันว่าจะสร้าง “คลังสำรอง Bitcoin แห่งชาติ” ซึ่งได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมเมื่อเดือนกรกฎาคม 2024 จากการเสนอกฎหมาย Bitcoin Act โดยวุฒิสมาชิก Cynthia Lummis ซึ่งตั้งเป้าให้กระทรวงการคลังซื้อ Bitcoin เพิ่มขึ้นถึง 200,000 BTC ต่อปี
อย่างไรก็ตาม ข่าวลือที่ว่ารัฐบาลอาจให้ความสำคัญกับ altcoins แทน Bitcoin ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงการคริปโตอย่างมาก โดย Almeida ผู้ร่วมก่อตั้ง Orquestra ระบุว่า “นี่เป็นเรื่องน่าผิดหวังอย่างมาก หากเป็นความจริง ความน่าเชื่อถือจะลดลงไปถึงจุดติดลบ”
ในขณะที่ David Bailey CEO ของ BTC Inc ก็แสดงความไม่เห็นด้วยอย่างชัดเจน พร้อมเรียก XRP ว่า “Kamala coin” และ Mike Dudas ผู้ร่วมก่อตั้ง The Block ได้โพสต์ข้อความวิจารณ์อย่างหนักว่า “การสำรอง Solana อย่างจริงจังแบบนี้จะทำให้สถานการณ์ยุ่งเหยิงแน่นอน”
นอกจากนี้ Kashif Raza CEO ของ Bitinning ยังได้เตือนถึงความเสี่ยงของการรวม altcoins ในคลังสำรองว่า “รัฐบาลควรเริ่มจาก Bitcoin เพื่อศึกษาผลกระทบก่อนที่จะลงทุนใน Altcoins ที่มีผันผวนมาก โดยเฉพาะในตลาดขาลง การลงทุนหนักอาจนำมาซึ่งความเสียหายและผลกระทบด้านลบจากสื่อ”
Raza ยังตั้งข้อสังเกตว่า คริปโตเช่น Solana หรือ Cardano ไม่ควรถูกระบุว่าเป็น “ของสหรัฐฯ” เนื่องจากเป็นบล็อกเชนสาธารณะ แม้จะมีการจดทะเบียนองค์กรในสหรัฐฯ แต่เครือข่ายนั้นเป็นของผู้ใช้ทั่วโลก
ที่มา: Cointelegraph