- บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนคริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบและลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ท่านยอมรับได้ ทาง Siam Blockchain รวมถึงผู้บริหารและพนักงานของบริษัท ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบในทุกกรณีหากเกิดความเสียหายจากการลงทุนของท่าน
ปัจจุบัน โปรเจกต์ในช่วงเริ่มต้นของ Solaxy ($SOLX) สามารถทำยอดระดมทุนได้ 23.7 ล้านดอลลาร์ และยังคงเติบโตต่อเนื่อง แม้ตลาดอยู่ในช่วงขาลง ด้วยกระแสที่มาแรง $SOLX จึงเป็นหนึ่งในเหรียญน่าจับตาในเดือนมีนาคม 2025
ก่อนหน้านี้ ระบบนิเวศ Layer-2 ของ Ethereum เคยแตะจุดสูงสุดที่ 55 พันล้านดอลลาร์ ในมูลค่ารวมที่ถูกล็อกไว้ (Total Value Secured – TVS) ซึ่งตอนนี้ Solana กำลังเตรียมพร้อมเข้าสู่สนามแข่งขัน DeFi ด้วยการเปิดตัว Solaxy โซลูชั่น Layer-2 ตัวแรกของเครือข่าย
Solaxy ถูกออกแบบมา เพื่อเป็นทางออกสำหรับปัญหาความแออัดของเครือข่าย Solana ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ นักลงทุนกลุ่มแรก ได้เข้าร่วมสนับสนุนโปรเจกต์ พร้อมกับช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ Solana
ซึ่งโทเค็นดั้งเดิมของ Solaxy หรือ $SOLX มีราคาเริ่มต้นที่ 0.001648 ดอลลาร์ต่อเหรียญ อย่างไรก็ตาม ราคาของ $SOLX จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เมื่อเข้าสู่เฟสถัดไป
Ethereum Layer-2 กำลังมาแรง Solaxy เตรียมเดินตามรอย Solana
ในช่วงที่ผ่านมา Ethereum Layer-2 ได้กลายเป็นแรงกระตุ้นสำคัญของตลาด โดยเฉพาะหลังจาก Total Value Secured (TVS) หรือ มูลค่ารวมที่ได้รับการรักษาความปลอดภัย ของการรวมข้อมูลบน Ethereum พุ่งแตะ 55 พันล้านดอลลาร์ในเดือนธันวาคม นำโดยโซลูชัน Layer-2 ชื่อดังอย่าง Arbitrum, Base และ OP Mainnet
แม้ปัจจุบัน TVS จะลดลง 36% เหลือ 35,000 ล้านดอลลาร์ แต่ระบบนิเวศ Layer-2 ของ Ethereum ยังคงแข็งแกร่ง เนื่องจากช่วยเพิ่มความสามารถในการปรับขนาด ลดค่าธรรมเนียมธุรกรรม และเพิ่มประสิทธิภาพ โดยที่ยังคงรักษาความปลอดภัยและการกระจายอำนาจของเครือข่ายหลักไว้ได้
การพัฒนาเหล่านี้ช่วยให้ Ethereum ได้รับการยอมรับและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปริมาณธุรกรรมเฉลี่ยต่อวินาที (User Operations Per Second – UOPS) พุ่งขึ้นเป็น 229.23 พร้อมกับ ปัจจัยการปรับขยายที่ 16.37 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของศักยภาพในการประมวลผลธุรกรรม เมื่อเทียบกับ Layer-1 ตามข้อมูลจาก L2 Beat

L2BEAT – สถานะของระบบนิเวศ Layer- 2
ซึ่ง Layer-2 (L2) ช่วยบรรเทาปัญหา ค่าธรรมเนียมสูงและความแออัดของเครือข่าย ที่เกิดขึ้นจากการเติบโตของ DeFi และ NFT บน Ethereum หลังปี 2020

ด้วย ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี Layer-2 ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่า บทบาทของ Layer-2 จะยิ่งสำคัญขึ้นในอนาคตของ Ethereum
ซึ่งบริษัทจัดการการลงทุน VanEck คาดการณ์ว่า ระบบนิเวศ Layer-2 อาจเติบโตเป็นตลาดที่มีมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในปี 2030 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึง ศักยภาพของโซลูชันการปรับขยายบน Ethereum
อย่างไรก็ตาม Ethereum ไม่ใช่บล็อกเชนเดียวที่กำลังก้าวหน้าในด้านการปรับขยาย DeFi
แม้จะเป็นเครือข่ายที่โดดเด่นมาโดยตลอด แต่ Solana ก็กำลังพัฒนาไปไกลกว่าการเป็นแค่ศูนย์กลางของเหรียญมีม
ล่าสุด Solana ได้เปิดตัวโซลูชัน Layer-2 ตัวแรกอย่าง Solaxy ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการแข่งขันกับระบบนิเวศ Layer-2 ของ Ethereum โดยตรง
การพัฒนา Solaxy อาจทำให้ Solana เข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาด DeFi ได้มากขึ้น และเพิ่มศักยภาพให้เครือข่ายสามารถรองรับปริมาณธุรกรรมที่สูงขึ้นได้ในอนาคต
อัปเกรด Solaxy ล่าสุด ช่วยแก้ปัญหาของ Solana
การอัปเกรดล่าสุดของ Solaxy ทำให้วันเปิดตัวของโปรเจกต์ ใกล้เข้ามามากขึ้น โดยปัจจุบัน Solaxy เป็นโซลูชันเดียวที่สามารถ แก้ไขปัญหาความแออัดและการหยุดให้บริการหลายครั้งของ Solana ซึ่งเป็นปัญหาต่อเนื่องมาตั้งแต่เครือข่ายถูกก่อตั้ง
โดยในปี 2021 Solana ล่มนานถึง 17 ชั่วโมง เนื่องจากหน่วยความจำล้นจากธุรกรรมบอตของ Grape Protocol IDO บน Raydium
ส่วนในปี 2023 Solana หยุดให้บริการ นานถึง 19 ชั่วโมง เพราะข้อผิดพลาดของตัวตรวจสอบ (Validator) ทำให้โปรโตคอล “Turbine” เกิดความหนาแน่น
การเปิดตัว Solaxy บน Solana จะนำมาซึ่งโซลูชัน Rollup ตัวแรก ที่ช่วยแบ่งเบาภาระของบล็อกเชนหลัก โดยจัดการธุรกรรมส่วนใหญ่ Off-Chain ทำให้เครือข่ายเร็วขึ้นและเสถียรขึ้น
อนาคต Solaxy อาจทำให้ Solana แข่งขันกับ Ethereum ได้ดียิ่งขึ้น และดึงดูด dApps สาย DeFi ให้เข้ามาสู่ระบบนิเวศของ Solana มากขึ้น
การอัปเกรดนักพัฒนาซอฟต์แวร์ล่าสุดของ Solaxy แสดงให้เห็นว่า โปรเจ็กต์กำลังปรับปรุงสภาพคล่อง และประสบการณ์ของนักพัฒนา

การทดสอบการผสานรวม Hyperlane บน Solaxy ประสบความสำเร็จ ทำให้สามารถ โอนสินทรัพย์ระหว่าง Solana Layer 1 และระบบบัญชีรวมของ Solaxy บน devnet ได้อย่างราบรื่น การฝากและถอนเงิน ก็พร้อมใช้งานแล้ว ทำให้การโอนเงินเข้าและออกจาก Solaxy สะดวกและง่ายขึ้น
โดยระยะต่อไป ทีมงานเตรียมเปิดตัว เวอร์ชันการผลิตที่เสถียร พร้อมขยายการรองรับสินทรัพย์ ให้ครอบคลุมมากกว่าแค่ SOL
ซึ่งนักพัฒนาสามารถใช้ Sovereign SDK รุ่นล่าสุด และ Solana CLI ที่อัปเกรดแล้ว เพื่อสร้างและโต้ตอบกับเครือข่าย Solaxy ได้สะดวกยิ่งขึ้น
ในขณะนี้ Solaxy รองรับ Block Explorer และเครื่องมือดั้งเดิมของ Solana แล้ว
รวมทั้ง มีการปรับปรุง rollup devnet ให้การพัฒนา และปรับใช้โปรแกรมทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม
ศักยภาพมูลค่าที่เป็นไปได้ของ $SOLX ในอนาคต
Solaxy กำลังเข้าใกล้วันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่งอาจเป็นอัปเกรดครั้งใหญ่ที่ช่วยให้ $SOL มีโอกาส กลับไปแตะจุดสูงสุดตลอดกาล (ATH) ที่ 293 ดอลลาร์อีกครั้ง
โดยครั้งสุดท้ายที่ $SOL แตะระดับนี้คือ เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเปิดตัว เหรียญมีม Official Trump ($TRUMP) แบบเซอร์ไพรส์ และเกิดปัญหาความแออัดบนเครือข่าย Solana อีกครั้ง
เมื่อ Solaxy เปิดใช้งานเต็มรูปแบบ ธุรกรรมจะประมวลผลได้รวดเร็วขึ้น ทำให้ มีมคอยน์ซูเปอร์สตาร์รุ่นใหม่ ที่เปิดตัวบน Solana ไม่ต้องเผชิญกับปัญหาความล่าช้าเหมือนในอดีต
หาก Solaxy สามารถช่วยให้ Solana ปรับปรุงประสิทธิภาพได้อย่างมีนัยสำคัญ อาจช่วยให้เครือข่ายสามารถแข่งขันกับ Ethereum Layer-2 ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 1 พันล้านดอลลาร์
โปรเจกต์ในช่วงเริ่มต้นของ Solaxy ที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ อาจเป็นโอกาสเข้าร่วมในราคาต่ำที่สุด สำหรับนักลงทุนที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์

การรองรับหลายเครือข่ายของ Best Wallet กระเป๋าคริปโตน่าใช้สำหรับมือใหม่ที่ใช้งานง่าย ทำให้เป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับ $SOLX ซึ่งปัจจุบันมีให้ใช้งานบน Ethereum และเพิ่งขยายไปยัง Bitcoin โดยจะเปิดตัว Solana ในเร็วๆ นี้
นักลงทุนสามารถดาวน์โหลด Best Wallet ได้จาก Google Play หรือ Apple App Store
สามารถเข้าร่วมชุมชน X และ Telegram เพื่อติดตามความคืบหน้าล่าสุดของ Solaxy
หากสนใจโปรเจกต์สามารถเข้าไปศึกษา Solaxy เพิ่มเติม ได้แล้ว
บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์