คาซัคสถาน ประเทศในภูมิภาคเอเชียกลางที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 9 ของโลก ล่าสุดได้เริ่มขยับตัวเข้าสู่โลกสินทรัพย์ดิจิทัล ด้วยการเปิดเผยแผนจัดตั้ง “คลังทุนสำรองคริปโต” ภายใต้การบริหารของรัฐอย่างเป็นทางการเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
รายงานระบุว่า รัฐบาลคาซัคสถานจะเป็นผู้รับผิดชอบดูแลกองทุนดังกล่าว โดยสินทรัพย์ที่นำมาเก็บสำรองจะมาจากการยึดทรัพย์ รวมถึงคริปโตที่ได้จากการขุดโดยภาครัฐ สาเหตุของการจัดตั้งคลังทุนสำรองในครั้งนี้ มาจากแนวโน้มระดับโลกที่เริ่มเปลี่ยนแปลงไป โดยปัจจุบันเริ่มมีหลายประเทศที่หันมาจัดตั้งทุนสำรองคริปโตเป็นของตนเอง ซึ่งรัฐบาลคาซัคฯ ก็ไม่ต้องการที่จะตกขบวน
Timur Suleimenov ประธานธนาคารกลางของประเทศ เปิดเผยว่ารัฐบาลทราบดีถึงความผันผวนและความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากคริปโต นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมรัฐบาลถึงจะต้องเป็นผู้ดูแลกองทุนดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียว

อย่างไรก็ตาม เทรนด์คริปโตในคาซัคสถานไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดี Kassym-Jomart Tokayev เคยประกาศแผนจัดตั้งเมืองต้นแบบ “CryptoCity” เพื่อใช้เป็นพื้นที่ทดลองการนำคริปโตเคอร์เรนซีมาใช้ซื้อสินค้าและบริการในชีวิตประจำวัน
ไม่เพียงเท่านั้น Kanysh Tuleushin รองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ยังระบุว่า จุดแข็งของคาซัคสถานคือ “กรอบการกำกับดูแลที่ยืดหยุ่น” ซึ่งจะช่วยดึงดูดบริษัทคริปโตและผลักดันประเทศให้กลายเป็นศูนย์กลางคริปโตของเอเชียกลาง
แต่ความยืดหยุ่นดังกล่าวก็ไม่ได้แปลว่าไร้การควบคุม เพราะในปี 2024 ที่ผ่านมา มีเว็บเทรดมากกว่า 36 แห่งถูกสั่งปิดจากการกวาดล้างของภาครัฐ เพื่อสกัดความเสี่ยงด้านการฟอกเงินและการละเมิดกฎหมาย
- ที่มา : Cointelegraph
- ภาพ : dknews

