<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Tether (USDT) ทะยานไม่หยุด! มูลค่าตลาดทะลุ $1.6 แสนล้าน ซีอีโอชี้เป็น ‘เงินดิจิทัล’ ของคนนับพันล้าน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

มูลค่าตลาดรวมของ Tether ( USDT) ซึ่งเป็น Stablecoin ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้พุ่งทะยานผ่านหลักไมล์สำคัญที่ 1.6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรก ซึ่ง Paolo Ardoino ซีอีโอของ Tether ได้เรียกความสำเร็จครั้งนี้ว่าเป็น “หลักไมล์ใหม่ที่น่าทึ่ง” (new mind-blowing milestone)

Paolo Ardoino ได้ประกาศข่าวดังกล่าวผ่านโพสต์บน X (ทวิตเตอร์) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยกล่าวว่าความสำเร็จนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงบทบาทที่เติบโตขึ้นของ USDT ในฐานะ “ดอลลาร์ดิจิทัล” สำหรับ “ผู้คนนับพันล้านที่อาศัยอยู่ในตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา” การเติบโตนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ USDT เพิ่งจะมีมูลค่าตลาดทะลุ 1.5 แสนล้านดอลลาร์ไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ Paolo Ardoino เคยระบุว่า USDT ถูกใช้งานโดยผู้คนมากกว่า 400 ล้านคนทั่วโลก และมีจำนวนวอลเล็ตที่ใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 35 ล้านใบในทุกๆ ไตรมาส

ข้อมูลจาก DefiLlama แสดงให้เห็นว่าการกระจายตัวของ USDT นั้น เครือข่าย TRON ยังคงเป็นผู้ครองส่วนแบ่งที่ใหญ่ที่สุด โดยมี USDT อยู่บนเชนถึงประมาณ 8.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ตามมาด้วย Ethereum ที่ 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ในขณะที่เครือข่ายอื่นๆ ยังมีสัดส่วนที่น้อยกว่ามาก

เบื้องหลังการเติบโตนี้คือความเชื่อมั่นในสินทรัพย์ค้ำประกันของ Tether โดยรายงานการรับรองล่าสุดระบุว่า 81.5% ของทุนสำรองที่ใช้หนุน USDT นั้นอยู่ในรูปแบบของเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ซึ่งส่วนใหญ่คือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้น ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2025 Tether ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นมูลค่ากว่า 1.27 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้บริษัทกลายเป็นผู้ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ รายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 18 ของโลก เทียบเท่ากับประเทศอย่างเกาหลีใต้และเยอรมนี ความแข็งแกร่งทางการเงินนี้ยังสะท้อนผ่านผลกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสแรกที่สูงกว่า 1 พันล้านดอลลาร์

Tether ยังคงเดินหน้าผลิต (mint) โทเคนใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา บริษัทเพิ่งผลิต USDT เพิ่มอีก 1 พันล้านดอลลาร์ และในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเพียงสัปดาห์เดียว มีการผลิตโทเคนใหม่ไปแล้วกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม เมื่อสัปดาห์ที่แล้วบริษัทได้ประกาศว่าจะหยุดให้บริการไถ่ถอน USDT บนบล็อกเชนรุ่นเก่า 5 เครือข่าย ได้แก่ Omni Layer, Bitcoin Cash SLP, Kusama, EOS และ Algorand โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนเป็นต้นไป ซึ่งซีอีโอ Ardoino ให้เหตุผลว่าเพื่อเป็นการทุ่มเททรัพยากรไปให้กับบล็อกเชนที่มีความสามารถในการขยายขนาด, มีกิจกรรมของนักพัฒนา และการมีส่วนร่วมของชุมชนที่แข็งแกร่งกว่า

ที่มา: cointelegraph