คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) กำลังพิจารณาสร้าง “ข้อยกเว้นด้านนวัตกรรม” (innovation exemption) ภายในกรอบการกำกับดูแลของตนเอง เพื่อส่งเสริมการเติบโตของเทคโนโลยี Tokenization การเปิดเผยครั้งสำคัญนี้มาจาก Paul Atkins ประธาน SEC คนปัจจุบัน ซึ่งได้กล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และถือเป็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงท่าทีครั้งใหญ่ที่สุดของหน่วยงานกำกับดูแลที่มีอิทธิพลต่อตลาดทุนโลก
ตามรายงานของ Bloomberg Paul Atkins ระบุว่าเจ้าหน้าที่ของ SEC กำลังพิจารณาถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะช่วยส่งเสริมนวัตกรรมด้าน Tokenization ซึ่งรวมถึงการสร้างข้อยกเว้นพิเศษที่จะอนุญาตให้มีวิธีการซื้อขายในรูปแบบใหม่ๆ และให้การผ่อนปรนอย่างตรงจุดเพื่อสนับสนุนการพัฒนาระบบนิเวศของหลักทรัพย์ในรูปแบบโทเคน (tokenized securities ecosystem) Paul Atkins ได้แสดงวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนว่าการเคลื่อนย้ายสินทรัพย์ขึ้นสู่ระบบ On-chain นั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยกล่าวประโยคอมตะว่า “ถ้าอะไรที่สามารถถูกทำให้เป็นโทเคนได้ สิ่งนั้นก็จะถูกทำให้เป็นโทเคน” (If it can be tokenized, it will be tokenized.)
การประกาศครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เพิ่งลงมติผ่านร่างกฎหมายคริปโตที่สำคัญ 3 ฉบับเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ได้แก่ GENIUS Act, CLARITY Act และ Anti-CBDC Surveillance State Act ซึ่งสะท้อนถึงบรรยากาศด้านกฎระเบียบที่เป็นมิตรต่ออุตสาหกรรมมากขึ้นอย่างชัดเจนภายใต้การนำของ Paul Atkins ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่ามีจุดยืนที่สนับสนุนคริปโต แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจาก Gary Gensler ประธานคนก่อนหน้า ภายหลังจากการผ่านกฎหมาย GENIUS Act Paul Atkins ได้กล่าวว่า “เทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์คริปโตมีศักยภาพที่จะปฏิวัติโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินของอเมริกา และนำมาซึ่งประสิทธิภาพใหม่, การลดต้นทุน, ความโปร่งใส และการลดความเสี่ยงเพื่อประโยชน์ของชาวอเมริกันทุกคน”
เมื่อถูกถามถึงความกังวลว่าผู้ออก Stablecoin อาจไม่มีสินทรัพย์ค้ำประกันเพียงพอ Paul Atkins ได้ตอบอย่างชัดเจนว่า “สิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่ากฎหมายใหม่ที่กำลังจะถูกลงนามนี้ได้ทำให้ชัดเจนก็คือ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่หลักทรัพย์ (securities) แต่เป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านการธนาคารที่จะเข้ามาดูแล ซึ่งผมคิดว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมแล้ว” อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่เห็นด้วยกับทิศทางใหม่นี้ โดยวุฒิสมาชิก Elizabeth Warren ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่ากฎหมายดังกล่าวยังไม่เพียงพอที่จะคุ้มครองผู้บริโภคจากความเสี่ยงต่างๆ เช่น การปั่นตลาดและการฉ้อโกง แต่ Paul Atkins ก็ได้กล่าวปิดท้ายโดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเปิดเผยข้อมูลที่โปร่งใสว่า “รัฐบาลไม่ควรทำตัวเป็นผู้ขัดขวางสิ่งเหล่านี้ แต่เราจำเป็นต้องเปิดทางให้มันเกิดขึ้นในแนวทางที่เหมาะสม พร้อมกับแนวทางปฏิบัติและการเปิดเผยข้อมูลที่เหมาะสม”
ที่มา: cointelegraph