<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

‘ปลดแอกคนรุ่นใหม่!’ วุฒิสมาชิก เสนอกฎหมาย ให้ใช้ ‘คริปโต’ ยื่นกู้ซื้อบ้านได้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

วุฒิสมาชิก Cynthia Lummis แห่งรัฐไวโอมิง ได้เสนอร่างกฎหมายใหม่ที่อาจปฏิวัติวงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยของสหรัฐอเมริกา ด้วยการเปิดทางให้นำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้พิจารณาในการอนุมัติสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านได้ การเคลื่อนไหวครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ “สร้างเส้นทางสู่การสร้างความมั่งคั่งที่เป็นนวัตกรรมใหม่ โดยคำนึงถึงจำนวนชาวอเมริกันรุ่นใหม่ที่ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มขึ้น” Lummis กล่าว

ในประกาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Lummis ระบุว่าร่างกฎหมายที่เธอเสนอซึ่งมีชื่อว่า “21st Century Mortgage Act” จะเป็นการดำเนินการในระดับรัฐสภาเพื่อต่อยอดคำสั่งของหน่วยงานการเคหะของรัฐบาลกลาง (FHFA) ที่ออกมาก่อนหน้านี้ในเดือนมิถุนายน ซึ่งในคำสั่งดังกล่าว ได้กำหนดให้ผู้รับซื้อสินเชื่อที่อยู่อาศัยอย่าง Fannie Mae และ Freddie Mac ต้อง “พิจารณาคริปโตเคอร์เรนซีในฐานะสินทรัพย์สำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับครอบครัวเดี่ยว” จุดเด่นสำคัญของร่างกฎหมายนี้คือจะช่วยให้คนหนุ่มสาวที่ต้องการซื้อบ้าน ไม่จำเป็นต้องถูกบังคับให้แปลงสินทรัพย์คริปโตที่ถือครองอยู่ให้เป็นเงินสดก่อน แต่สามารถนำมาใช้ประเมินเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อได้โดยตรง

อย่างไรก็ตาม ความพยายามในการผลักดันเรื่องนี้ต้องเผชิญกับการต่อต้านอย่างหนักจากฝั่งเดโมแครตในวุฒิสภา โดยพวกเขาได้ส่งจดหมายถึงผู้อำนวยการ FHFA เพื่อเรียกร้องให้มีการ “ประเมินความเสี่ยงและผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นอย่างเต็มที่” “ผู้กู้ที่ใช้คริปโตต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นที่พวกเขาอาจไม่สามารถแปลงสถานะคริปโตกลับเป็นเงินสดในราคาที่จะช่วยป้องกันความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ได้” กลุ่มเดโมแครตระบุในจดหมาย

ร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นหนึ่งในสามฉบับที่วุฒิสภาอาจนำขึ้นมาพิจารณาหลังจากที่กลับมาเปิดประชุมอีกครั้งหลังช่วงพักในเดือนสิงหาคม โดยอีกสองฉบับคือร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับโครงสร้างตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล และร่างกฎหมายต่อต้านการสร้างสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) ขณะเดียวกัน ในสภาผู้แทนราษฎรก็มีร่างกฎหมายที่มีเนื้อหาคล้ายกันซึ่งเสนอโดย ส.ส. Nancy Mace จากพรรครีพับลิกันรอการพิจารณาอยู่เช่นกัน การเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นพร้อมกันทั้งในภาครัฐและเอกชน (เช่นกรณีของ Block Earner ในออสเตรเลีย) จึงเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังจะถูกผนวกรวมเข้ากับระบบการเงินกระแสหลักอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ที่มา: cointelegraph