<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

จบซะที! ทำเนียบขาวสั่ง ‘จัดระเบียบ’ SEC-CFTC ยุติสงครามกฎหมายคริปโต

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

รายงานนโยบายคริปโตเคอร์เรนซีฉบับล่าสุดของทำเนียบขาว อาจเป็นจุดสิ้นสุดของยุคแห่งความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบที่บริษัทสินทรัพย์ดิจิทัลในสหรัฐฯ ต้องเผชิญมานานหลายปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นที่เกี่ยวกับกฎหมายหลักทรัพย์ที่คลุมเครือมาโดยตลอด

ที่มา: whitehouse.gov

หนึ่งในข้อเสนอที่สำคัญที่สุดในรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา คือการ “แบ่งแยกอำนาจหน้าที่” ที่ชัดเจนระหว่างคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) และคณะกรรมการกำกับดูแลการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า (CFTC) โดย CFTC จะได้รับอำนาจในการกำกับดูแลตลาดคริปโตสปอต ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาที่คาราคาซังมานานเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทั้งสองมีอำนาจทับซ้อนหรือขัดแย้งกันเอง

นาย Edwin Mata ทนายความด้านบล็อกเชนและซีอีโอของแพลตฟอร์ม Brickken ได้ให้ความเห็นกับ Cointelegraph ว่า การแบ่งแยกอำนาจหน้าที่ที่ชัดเจนนี้จะเป็นการวางรากฐานสำหรับ “ระบบนิเวศคริปโตที่เป็นผู้ใหญ่, โปร่งใส และสามารถขยายขนาดได้” “การปล่อยให้แต่ละหน่วยงานกำกับดูแลเครื่องมือที่สอดคล้องกับความเชี่ยวชาญของตนเองมากที่สุด จะช่วยหลีกเลี่ยงความซ้ำซ้อนและความสับสน” เขากล่าว พร้อมเสริมว่า “สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในเขตอำนาจศาลอย่างสหรัฐอเมริกา ที่ซึ่งบรรทัดฐานจากคดีในอดีตมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง”

นาย Mata อธิบายว่า ในอดีตจุดยืนที่ไม่สอดคล้องกันของหน่วยงานกำกับดูแลได้นำไปสู่การตีความทางกฎหมายที่กระจัดกระจาย และบีบให้ศาลต้องเป็นผู้ตัดสินข้อพิพาทระหว่างหน่วยงาน ซึ่งรายงานฉบับนี้จะ “ส่งเสริมให้เกิดนิติศาสตร์ที่สอดคล้องกัน และอนุญาตให้ความเห็นทางกฎหมายถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานที่มั่นคง”

การเปิดเผยรายงานของทำเนียบขาวนี้เกิดขึ้นเพียงสองเดือนหลังจากที่หนึ่งในคดีความที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์คริปโตอย่างคดีระหว่าง SEC และ Ripple Labs ได้สิ้นสุดลง ซึ่งนาย Brad Garlinghouse ซีอีโอของ Ripple ได้ประกาศชัยชนะหลังจากที่ SEC ได้ถอนอุทธรณ์ในคดีดังกล่าว

นักวิเคราะห์จาก Bitfinex มองว่าข้อเสนอแนะของทำเนียบขาวอาจช่วย “บรรเทาความกังวลของอุตสาหกรรมเกี่ยวกับกฎหมายหลักทรัพย์ที่คลุมเครือ” ด้วยการสร้างขอบเขตการกำกับดูแลที่ชัดเจน ซึ่งจะเข้ามาแก้ไข “อุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางนวัตกรรมคริปโตในสหรัฐฯ” การเคลื่อนไหวครั้งประวัติศาสตร์นี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการจัดระเบียบหน่วยงานรัฐ แต่ยังเป็นการปูทางไปสู่ยุคใหม่ที่ชัดเจนและมั่นคงยิ่งขึ้นสำหรับอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลในสหรัฐอเมริกา

ที่มา: cointelegraph