<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

USDC พลิกแซงหน้า USDt ครองส่วนแบ่ง 63% ของการจ่ายเงินเดือนในปี 2024

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

รายงานล่าสุดจากบริษัท VC คริปโตชื่อดัง Pantera Capital เปิดเผยว่า จำนวนผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมคริปโต ที่รับเงินเดือนเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล เพิ่มสูงขึ้นถึง 3 เท่า 

โดยในปี 2023 มีผู้ที่รับเงินเดือนเป็นคริปโตคิดเป็นเพียง 3% แต่ในปี 2024 ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 9.6% โดยผู้ตอบแบบสอบถามกลุ่มนี้เลือกรับค่าจ้างเป็นเหรียญ Stablecoin เป็นหลัก

ที่มา: รายงาน Pantera Capital

จากการสุ่มเก็บข้อมูลผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมคริปโตกว่า 1,600 คน ใน 77 ประเทศทั่วโลก พบว่า อุตสาหกรรมนี้เริ่มหันมาใช้ระบบจ่ายเงินเดือนผ่านบล็อกเชนมากขึ้น และมีความเชื่อมั่นต่อเหรียญ stablecoin ที่มี Peg ด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐ เช่น USDC ของ Circle และ USDt ของ Tether

ซึ่ง USDC ของ Circle กลายเป็นผู้นำ สำหรับการจ่ายเงินเดือนคริปโต โดยคิดเป็น 63% ของเงินเดือนทั้งหมดที่จ่ายด้วยคริปโต แม้ว่าในตลาดโดยรวม USDT ของ Tether จะมีปริมาณการซื้อขายมากกว่าก็ตาม

รายงานระบุว่า สาเหตุหลักอาจไม่ได้มาจากแค่ความลำเอียงของกลุ่มตัวอย่างจากฝั่งตะวันตกเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะแพลตฟอร์มจ่ายเงินเดือนรายใหญ่ในอุตสาหกรรม เช่น Deel, Remote และ Rippling ยังไม่มีการรองรับการจ่ายเงินเดือนด้วยเหรียญ USDT

Stablecoin ทั้งสองเหรียญนี้ ทั้ง USDC และ USDT มีสัดส่วนรวมกันคิดเป็นมากกว่า 90% ของการจ่ายเงินเดือนด้วยคริปโตทั้งหมดในปีที่ผ่านมา โดยข้อมูลจาก DeFiLlama ระบุว่า มูลค่าตลาดรวมของ Stablecoin ในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 268,600 ล้านดอลลาร์

จากรายงานยังพบว่า การจ่ายค่าตอบแทนด้วยโทเคนในอุตสาหกรรมบล็อกเชนเน้นการสร้างความผูกพันกับพนักงานในระยะยาว โดย 88% ของสัญญามอบโทเคน มีระยะเวลา 4 ปี ซึ่งเพิ่มขึ้น 64% จากในปีก่อนหน้า

ทั้งนี้ ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญได้ถูกให้ความสำคัญมากกว่าใบปริญญา โดยผู้ที่จบปริญญาตรีมีรายได้เฉลี่ยสูงถึง 286,039 ดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าผู้ที่จบปริญญาโทที่มีรายได้เฉลี่ย 214,359 ดอลลาร์ และปริญญาเอกที่มีรายได้เฉลี่ย 226,858 ดอลลาร์

เปอร์เซ็นต์ของผู้คนที่ชำระเงินด้วยคริปโต ที่มา: รายงาน Pantera Capital

Circle ได้พยายามผลักดัน USDC ให้กลายเป็นเครื่องมือหลัก ทั้งสำหรับการชำระเงินระดับองค์กร (institutional payments), การจ่ายเงินเดือน และโครงสร้างพื้นฐานการเงินแบบ B2B แทนที่จะเป็นแค่เหรียญสำหรับการเทรด

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมีนาคม 2024 Circle ได้จับมือกับ Intercontinental Exchange (ICE) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) เพื่อสำรวจการใช้ USDC และกองทุนแบบ tokenized ในตลาดตราสารอนุพันธ์ระดับโลก

ต่อมาในเดือนพฤษภาคม Circle ก็ได้ยื่นขอใบอนุญาตจัดตั้งธนาคารทรัสต์แห่งชาติ กับทางสำนักงานควบคุมสกุลเงินของสหรัฐ (OCC) เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มีการกำกับดูแลสำหรับการชำระเงิน, การดูแลสินทรัพย์, และการการจัดการธุรกรรมด้วย Stablecoin อย่างปลอดภัยและเป็นระบบ

ที่มา : cointelegraph