รายงานล่าสุดจากต่างประเทศเปิดเผยว่า ช่อง Youtube ที่นำเสนอเนื้อหาด้านคริปโตแม้จะทำคอนเทนต์มายาวนานหลายปีจนเป็นที่น่าเชื่อถือ ก็ยังเสี่ยงที่จะถูกสแกมเมอร์แฮ็กช่องและนำมันมาใช้หลอกลวงต้มตุ๋นผู้ติดตาม
SentinelLABS บริษัทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ รายงานว่าปัจจุบันมีมิจฉาชีพได้เริ่มมีการใช้ช่องยูทูปที่มีอายุมากในการผลิตคอนเทนต์ออกมาเพื่อหลอกลวงชาวบ้าน เช่นการโปรโมตบอทเทรดคริปโตที่แฝงสัญญา smart contract ที่สามารถดูดเงินผู้ใช้ออกไปได้
Alex Delamottea ฝ่ายวิจัยภัยคุกคามระดับอาวุโสของบริษัท ชี้ให้เห็นว่ารูปแบบการหลอกลวงดังกล่าวได้เริ่มต้นขึ้นมาตั้งแต่ปี 2024 และยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้บอทเทรด
ในกรณีนี้ผู้โจมตีใช้กลยุทธ์หลอกลวงโดยการแอบใส่ที่อยู่กระเป๋าของตัวเองในสมาร์ตคอนแทรกต์ที่เหยื่อทำการ deploy หรือเปิดใช้งาน โดยที่อยู่กระเป๋าของผู้โจมตีจะถูกซ่อนไว้และถูกแสดงให้ดูเหมือนกับที่อยู่ของการทำธุรกรรมหรือการซื้อขายปกติ ซึ่งดูไม่น่าสงสัย
Delamottea อธิบายว่า เมื่อเหยื่อทำการเติมเงินหรือโอนเงินไปยังสัญญาสมาร์ตคอนแทรกต์ที่ถูกสร้างขึ้นนั้น เงินที่โอนเข้าไปจะไม่ไปยังสัญญาสมาร์ตคอนแทรกต์จริง ๆ แต่จะถูกโอนไปยังกระเป๋าของผู้โจมตีแทน โดยที่ผู้โจมตีสามารถดึงเงินออกไปจากสัญญาสมาร์ตคอนแทรกต์ได้ทันที ซึ่งการหลอกลวงนี้จะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อเหยื่อเติมเงินเข้าไปในสัญญาสมาร์ตคอนแทรกต์นั้น
สำหรับเหยื่อที่ใช้ล่อให้นักลงทุนเติมเงินเข้ามาคือ การเรียกเก็บ 0.5 ETH ($1,829) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการธุรกรรม หรือค่าแก๊ส เพื่อเป็นการรับประกันว่ากำไรที่ได้จากการเทรดจะคุ้มค่าเหนื่อย ซึ่งก็มีคนจำนวนไม่น้อยตกหลุมพรางนี้
Delamottea กล่าวว่า จากการตรวจสอบกระเป๋าของมิจฉาชีพ บางรายสามารถทำเงินได้ 4.19 ETH บ้างได้ 7.59 ETH และอีกบัญชีหนึ่งสามารถหลอกเหยื่อมาได้ถึง 244.9 ETH ซึ่งมูลค่าความเสียหายโดยรวมที่เกิดขึ้นจากสามบัญชีนี้รวมกันเป็นมูลค่าที่สูงถึง $939,000 ซึ่งถึงแม้จะหาที่อยู่ของ Scammer เจอบางราย แต่ Delamottea คาดว่ายังมีมิจฉาชีพรายอื่นแฝงตัวอยู่อีกมาก
นอกเหนือจากนี้ Delamottea ยังกล่าวอีกว่าด้วยข้อมูลในปัจจุบันเขาเองก็ไม่ทราบว่ามิจฉาชีพได้สิทธิการเข้าถึงบัญชี Youtube ที่มีอายุเหล่านี้ได้อย่างไร อาจเป็นการซื้อบัญชีมาจากตลาดมืด, โจมตีและปล้นบัญชี หรือ สร้างบัญชีเหล่านี้ขึ้นมาเองก็ได้
รูปแบบของคลิปที่ใช้ต้มตุ๋นส่วนใหญ่นั้นมักจะเป็นคลิปที่ถูกสร้างขึ้นด้วย AI ทั้งภาพและเสียง ทำให้มิจฉาชีพสามารถสร้างคอนเทนต์หลอกลวงได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องย้ายตัวตนไปมา
ขณะเดียวกันคอมเมนต์ความเห็นของผู้ชมส่วนใหญ่ล้วยเป็นไปในทางบวก โดยที่ความเห็นแย่ ๆ จะถูกลบทิ้ง และความเห็นดี ๆ ก็มักจะเป็นการอวยว่าบอทเทรดสามารถทำกำไรได้มหาศาลเพื่อล่อให้ติดกับ
อย่างไรก็ดี เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ Delamottea แนะนำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องมือ หรือทำตามคำแนะนำจากอินฟลูเอนเซอร์บนอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มที่ชอบอ้างว่าสามารถทำเงินได้อย่างรวดเร็ว
ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่ผู้ใช้จะต้องทำการศึกษาเรื่องต่าง ๆ ด้วยตนเองเพื่อยืนยันความปลอดภัยในการใช้งาน และอย่าหลงเชื่อในสิ่งที่ดีเกิดจริงจนเกินไป
ที่มา : Cointelegraph