BTCS Inc. หรือ Blockchain Technology Consensus Solutions ซึ่งเป็นบริษัทที่มุ่งเน้นธุรกิจเกี่ยวกับ Ethereum ได้รายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้โดยเปิดเผยว่า บริษัทมีการถือครองเหรียญ Ethereum (ETH) อยู่ที่ 70,140 เหรียญ คิดเป็นมูลค่ากว่า 321 ล้านดอลลาร์
โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2025 บริษัทมีรายได้สูงสุดที่ 4.46 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 341% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2024
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีรายได้ที่เติบโตขึ้น แต่บริษัทกลับรายงานขาดทุนสุทธิ 13.39 ล้านดอลลาร์ จากการลงทุนในบริการ Builder+ และการขาดทุนจากการขายสินทรัพย์คริปโตอื่นๆ ที่ไม่ใช่ Ethereum
BTCS Inc. ถือว่าเป็นหนึ่งในบริษัทบล็อกเชนที่เก่าแก่ที่สุดในตลาดหลักทรัพย์ โดยก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2014 และจดทะเบียนในตลาด Nasdaq ซึ่งหุ้นของบริษัทได้เพิ่มขึ้นกว่า 71% ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยราคาซื้อขายอยู่ที่ 4.50 ดอลลาร์ ซึ่งปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนราคาหุ้นของบริษัทคือ กระแสความสนใจในกลุ่มบริษัทที่ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวนมหาศาล หรือที่เรียกกันว่า “crypto treasury”
การถือครอง Ethereum ของ BTCS นับเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การสะสม ETH ซึ่งบริษัทมองว่าเป็นการลงทุนระยะยาวที่มีศักยภาพในการสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคต โดยบริษัทได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เช่น บริการ Builder+ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างบล็อกและลดค่าสัมประสิทธิ์การทำธุรกรรม (Gas) รวมทั้ง NodeOps ซึ่งเป็นบริการคลาวด์สำหรับการตรวจสอบธุรกรรมของ Ethereum ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถสร้างรายได้จากการให้บริการดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย Builder+ เพียงอย่างเดียวมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 2.51 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสนี้ จาก 76,000 ดอลลาร์ในปีที่แล้ว
Charles Allen ซีอีโอของบริษัท BTCS กล่าวว่า “ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อม และมี Ethereum กว่า 70,140 ETH ในงบดุล และมีทุนหนุนหลัง เราเชื่อว่า บริษัทพร้อมจะทำตามกลยุทธ์เต็มรูปแบบ และคาดว่าจะได้เห็นอัตรากำไร ปรับตัวดีขึ้น และการสะสม ETH ที่เพิ่มขึ้น เมื่อการดำเนินงานเข้าสู่เฟสถัดไปของการขยายขนาด และประสิทธิภาพ” ซึ่งหมายถึงกลยุทธ์ “flywheel” ของบริษัทในการสะสม ETH
บริษัท BTCS ยังวางแผนที่จะระดมทุนสูงสุด 2 พันล้านดอลลาร์ผ่านการขายหุ้น เพื่อนำมาซื้อ Ethereum เพิ่มเติม ตามกระแสนิยมของบริษัท Ethereum treasury อย่าง Bitmine และ SharpLink ซึ่งทั้งสองบริษัทมีมูลค่ารวมกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลของ The Block
ที่มา : theblock