<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เกาหลีใต้สั่งระงับบริการกู้ยืมคริปโต หลังผู้ใช้นับพันถูกบังคับล้างพอร์ต

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

หน่วยงานกำกับดูแลการเงินสูงสุดของเกาหลีใต้ (FSC) ออกคำสั่งด่วนให้ผู้ให้บริการซื้อขายคริปโตในประเทศ หยุดเปิดบริการกู้ยืมสินทรัพย์ดิจิทัลใหม่ โดยให้เหตุผลถึงความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้น และความจำเป็นต้องเร่งออกกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน

FSC เปิดเผยเมื่อวันอังคารว่าได้ส่งหนังสือถึงแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตทุกแห่ง เพื่อให้ระงับบริการกู้ยืมใหม่จนกว่าจะมีแนวปฏิบัติที่เสร็จสมบูรณ์ แต่สัญญาที่มีอยู่เดิม เช่น การต่ออายุหรือการชำระคืน จะยังได้รับอนุญาต

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา FSC และ FSS (Financial Supervisory Service) ได้จัดตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อวางกรอบกฎหมายด้านการปล่อยกู้สินทรัพย์ดิจิทัล โดยคาดว่าแนวทางใหม่นี้จะกำหนดเพดานการกู้ยืม เงื่อนไขผู้มีสิทธิใช้บริการ และข้อกำหนดด้านการเปิดเผยความเสี่ยง นอกจากนี้ FSC ยังย้ำว่าจะลงพื้นที่ตรวจสอบและใช้มาตรการกำกับกับแพลตฟอร์มที่ไม่ปฏิบัติตาม

ผู้ใช้นับพันถูกล้างพอร์ต สะท้อนความเสี่ยงที่ไร้กฎคุม

คำสั่งดังกล่าวเกิดขึ้นหลังมีรายงานความเสียหายหนักของผู้ใช้งาน โดยเฉพาะ การถูกบังคับชำระบัญชี (forced liquidation) ในโปรแกรมกู้ยืมของบางเอ็กซ์เชนจ์

FSC เปิดเผยว่า มีผู้ให้บริการรายหนึ่งเพิ่งเปิดตัวบริการกู้ยืมเมื่อกลางเดือนมิถุนายน และสามารถดึงดูดผู้ใช้ได้กว่า 27,600 คนภายในหนึ่งเดือน มียอดธุรกรรมกว่า 1.5 ล้านล้านวอน (ราว 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) แต่กว่า 3,600 คน หรือ 13% ของผู้ใช้ทั้งหมด ต้องถูกล้างพอร์ตหลังมูลค่าหลักประกันร่วงลง

นอกจากนี้ FSC ยังชี้ไปที่บริษัท 2 แห่งที่เปิดให้กู้ยืมเหรียญ Tether ( USDT) ซึ่งสร้างแรงขายผิดปกติและกดให้ราคา USDT เบี่ยงเบนจากค่า 1 ดอลลาร์ ถือเป็นสัญญาณเตือนว่า หากปล่อยให้การกู้ยืมใหม่ดำเนินต่อโดยไร้มาตรการป้องกัน อาจทำให้เงินของนักลงทุนเสียหายยิ่งกว่าเดิม

ช่องโหว่กฎหมาย Crypto Lending ยังอยู่ใน “พื้นที่สีเทา”

แม้เกาหลีใต้จะเริ่มสร้างฐานกฎหมายคริปโตมาตั้งแต่ปี 2020 ทั้งข้อกำหนด AML และ Travel Rule ภายใต้กฎหมายปรับปรุงเรื่องการทำธุรกรรมทางการเงิน และการประกาศใช้ Virtual Asset User Protection Act ในปี 2023 ที่เปิดทางลงโทษการปั่นราคาและการบริหารเงินฝากที่ไม่โปร่งใส

แต่บริการกู้ยืมคริปโตกลับยังคงอยู่ใน พื้นที่กฎหมายสีเทา ที่ไม่มีกรอบควบคุมหรือระบบการออกใบอนุญาตอย่างเป็นทางการ ทำให้ความเสี่ยงต่อผู้ลงทุนยังคงสูง

บทสรุป

คำสั่งระงับบริการกู้ยืมครั้งนี้ตอกย้ำว่าเกาหลีใต้กำลังเร่งเดินหน้าปิดช่องโหว่กฎหมาย หลังผู้ใช้นับพันประสบปัญหาล้างพอร์ตและเกิดความผันผวนในตลาดสเตเบิลคอยน์ โดยภาครัฐเตรียมใช้กรอบกฎเกณฑ์ใหม่เพื่อสร้างมาตรฐานที่ชัดเจน และลดความเสี่ยงต่อระบบการเงินดิจิทัลในอนาคต

ที่มา: cointelergraph