ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกมาประกาศมาตรการสำคัญเพื่อรับมือกับแก๊งมิจฉาชีพ โดยเฉพาะการจำกัดวงเงินโอนและชำระเงินออนไลน์สำหรับบุคคลธรรมดา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับระบบการชำระเงินฯ ธปท. เปิดเผยว่า มาตรการนี้สอดคล้องกับ พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฉบับที่ 2 พ.ศ. 2568
นางอรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการสายกำกับระบบการชำระเงินฯ ธปท. ชี้แจงเพิ่มเติมว่า มาตรการนี้มีเป้าหมายหลัก 2 ประการ คือ
(1) จำกัดความเสียหาย หากประชาชนตกเป็นเหยื่อ โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของมิจฉาชีพ
(2) ป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพโอนเงินไปได้ครั้งละมาก ๆ ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการอายัดเงินคืนให้กับผู้เสียหาย โดยธนาคารจะกำหนดวงเงินโอนเริ่มต้นที่ไม่เกิน 50,000 บาทต่อวัน ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการทำธุรกรรมของลูกค้าแต่ละคน และมีกระบวนการรองรับกรณีที่มีความจำเป็นต้องโอนเงินจำนวนมากเป็นกรณีฉุกเฉินด้วย

มาตรการใหม่นี้ จะเริ่มใช้กับลูกค้าใหม่ที่เพิ่งเปิดใช้บริการ Mobile Banking ภายในสิ้นเดือนสิงหาคม 2568 และจะครอบคลุมลูกค้าปัจจุบันทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้ ธปท. คาดหวังว่าการยกระดับความปลอดภัยครั้งนี้จะช่วยลดความเสียหายและเพิ่มโอกาสในการได้เงินคืนให้กับผู้เสียหายได้มากขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ

