ข้อมูลล่าสุดจาก Glassnode เผยว่า Long-term holders ของ Bitcoin ได้ทำการ Realized profit ไปแล้วกว่า 3.27 ล้าน BTCหรือคิดเป็นมูลค่าราว 362,000 ล้านดอลลาร์ ในรอบ cycle ปัจจุบัน นับเป็นหนึ่งในรอบที่ทำกำไรได้มากที่สุดตั้งแต่ Bitcoin ถูกสร้างขึ้นมา โดยเมื่อเปรียบเทียบกับรอบ 2016–2017 peak การทำกำไรสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 3.93 ล้าน BTC ซึ่งหมายความว่ารอบนี้กำลังเข้าใกล้ระดับ peak ของ cycle ก่อนหน้าอย่างชัดเจน
การทำกำไรจำนวนมากในรอบนี้สะท้อนถึงการเข้าสู่ mature bull market phase หรือช่วงที่ตลาดกระทิงเริ่มโตเต็มที่ โดยนักลงทุนระยะยาวไม่ได้ถือเพียงเพื่อเก็งกำไร แต่มีการจัดการพอร์ตและทยอยขายทำกำไรอย่างมี strategy เพื่อตั้งรับสำหรับ “next phase” ของตลาด
หากมองในมิติของ cycle การ Halving ของ Bitcoin ที่เกิดขึ้นทุก ๆ 4 ปีและลด reward ของ miner ลงครึ่งหนึ่ง ประวัติศาสตร์ยืนยันว่าหลัง Halving ราคามักปรับตัวขึ้นตาม pattern โดยงานวิจัยจาก National Bureau of Economic Research (2024)พบว่าโดยเฉลี่ยแล้วภายใน 12 เดือนหลัง Halving ราคาของ Bitcoin จะเพิ่มขึ้นประมาณ 30% ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมการทำกำไรของ long-term holders ที่เรากำลังเห็นอยู่ตอนนี้
อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือการ shift ของ market structure ที่ไม่ได้ขับเคลื่อนโดยรายย่อย (retail) เป็นหลักอีกต่อไป แต่เริ่มมีน้ำหนักจากสถาบันมากขึ้น โดยรายงานร่วมระหว่าง CME Group และ Glassnode (2025) ชี้ว่าการเข้ามาซื้อสะสมจากสถาบันและบริษัทขนาดใหญ่กำลังกลายเป็น narrative สำคัญ ที่อาจเปลี่ยนภาพตลาด Bitcoin จาก “retail-driven volatility” ไปสู่การครอบงำโดย institutional investors อย่างจริงจัง
เมื่อรวมทุกองค์ประกอบ ทั้งปริมาณกำไรที่ long-term holders ทำไปแล้วในระดับมหาศาล การเข้าสู่ช่วง mature bull และการ shift ของ liquidity จาก retail ไปสู่ institutional การเคลื่อนไหวใน cycle นี้จึงถูกมองว่าเป็น “หนึ่งในรอบที่มีนัยสำคัญที่สุดของ Bitcoin” และอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนโครงสร้างตลาดในระยะยาว
ที่มา : @Crypto_Potato