<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ก.ล.ต. สหรัฐฯ ประกาศวาระยกเครื่องกฎหมายคริปโตครั้งใหญ่-ลดกฎเกณฑ์วอลล์สตรีท

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ได้เปิดเผยวาระการออกกฎหมายสำหรับช่วงหลายเดือนข้างหน้าในวันพฤหัสบดี ซึ่งรวมถึงข้อเสนอในวงกว้างที่จะยกเครื่องกฎระเบียบเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซี และลดกฎเกณฑ์ที่วอลล์สตรีทวิจารณ์ว่าสร้างภาระมากเกินไป

SEC ได้ร่างโครงการริเริ่มหลายประการเพื่อปฏิรูปนโยบายคริปโทเคอร์เรนซีอย่างเป็นทางการ ซึ่ง พอล แอตคินส์ (Paul Atkins) ประธาน ก.ล.ต. ได้เคยเกริ่นไว้เมื่อเดือนกรกฎาคม โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

  • เสนอแนวทางกำกับดูแลการเสนอขายสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งอาจรวมถึงการยกเว้นบางกรณีและ “safe harbors” (ข้อยกเว้นที่ไม่ต้องรับผิด)
  • สร้างความชัดเจนเกี่ยวกับกฎนายหน้า-ผู้ค้าหลักทรัพย์ (Broker-Dealer) เพื่อชี้แจงว่ากฎเหล่านี้จะถูกนำมาปรับใช้กับคริปโตอย่างไร
  • พิจารณาอนุญาตให้เทรดคริปโตในตลาดหลักทรัพย์แห่งชาติ SEC จะพิจารณาแก้ไขกฎเพื่อให้สามารถซื้อขายคริปโตบนตลาดหลักทรัพย์แห่งชาติและระบบการซื้อขายทางเลือกได้

หากนโยบายเหล่านี้มีผลบังคับใช้ จะถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งได้ผลักดันให้มีกฎเกณฑ์ที่เหมาะสมมาอย่างยาวนาน เพื่อให้คริปโตสามารถเข้ามาผสมผสานกับการเงินแบบดั้งเดิมได้มากขึ้น

“วาระด้านกฎระเบียบนี้สะท้อนให้เห็นว่ามันเป็นวันใหม่ที่ ก.ล.ต.” แอตคินส์กล่าวในแถลงการณ์ “รายการในวาระการประชุมแสดงให้เห็นถึงการที่คณะกรรมการกลับมาให้ความสำคัญกับการสนับสนุนนวัตกรรม, การสร้างทุน, ประสิทธิภาพของตลาด และการคุ้มครองนักลงทุน”

ท่าทีดังกล่าวสอดคล้องกับแนวทางของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เคยให้คำมั่นสัญญาในช่วงหาเสียงเมื่อปีที่แล้วว่าจะเป็น “ประธานาธิบดีคริปโต” และส่งเสริมการยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับยุคของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่หน่วยงานกำกับดูแลได้ทำการปราบปรามอุตสาหกรรมอย่างหนักเพื่อปกป้องชาวอเมริกันจากการฉ้อโกงและการฟอกเงิน โดย ก.ล.ต. ในยุคนั้นได้ฟ้องร้องแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนอย่าง Coinbase, Binance และอีกหลายสิบแห่ง ซึ่ง ก.ล.ต. ในยุคของทรัมป์ได้ถอนฟ้องคดีเหล่านั้นไปแล้ว

นอกจากนี้ SEC ยังวางแผนที่จะเสนอแผนสำหรับ “การหาเหตุผลอันควร” ของการเปิดเผยข้อมูล และวางแผนที่จะ “ลดภาระการปฏิบัติตามกฎระเบียบ” สำหรับบริษัทมหาชนที่เกี่ยวข้องกับข้อเสนอของผู้ถือหุ้น

ที่มา: reuters