การพบกันระหว่าง Paul Atkins ประธาน SEC สหรัฐฯ และ Christine Lagarde ประธาน ECB กำลังถูกจับตามองว่าอาจเป็น “หมุดหมาย” สำคัญของตลาดคริปโตในปีนี้ เพราะนี่คือจังหวะที่กฎเกณฑ์สองฝั่งมหาสมุทรเริ่มขยับเข้าหากัน
ฝั่งสหรัฐฯ กำลังเดินหน้าด้วยโครงการ “Project Crypto” ของ SEC ขณะที่ยุโรปมี กฎหมาย MiCA ที่วางกรอบชัดเจนอยู่แล้ว การประสานสองแนวทางนี้เข้าด้วยกัน จะช่วยคลี่คลาย “ฝันร้ายด้านการคอมพลายแอนซ์” ที่บริษัทคริปโตทั่วโลกเผชิญอยู่ เปิดทางให้แพลตฟอร์มระดับ “ซูเปอร์แอป” สามารถให้บริการข้ามพรมแดนได้ง่ายขึ้น
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือเรื่อง stablecoins ปัจจุบันกว่า 99% ผูกกับดอลลาร์สหรัฐ แต่ยุโรปมีความตั้งใจที่จะผลักดัน Digital Euro เข้ามามีบทบาท การผสานระหว่าง USD- stablecoin กับ Digital Euro จะสร้างระบบนิเวศใหม่ที่สมดุลกว่า และเพิ่มความมั่นใจให้นักลงทุนสถาบัน
นักวิเคราะห์มองว่าหากความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ และยุโรปเกิดขึ้นจริง จะเป็นจุดเริ่มต้นของ “Institutional Adoption Wave” หรือคลื่นการเข้ามาของสถาบันการเงินครั้งใหญ่ ที่อาจพาตลาดคริปโตจากมูลค่า €200 พันล้านยูโร ไปแตะระดับ €2.7 ล้านล้านยูโร ใน 5 ปีข้างหน้า
สรุปแล้ว การประชุมครั้งนี้อาจไม่ใช่แค่สัญลักษณ์ทางการทูต แต่เป็น จุดเปลี่ยนของวงการคริปโต ที่ทำให้ความไม่แน่นอนทางกฎหมายสลายไป เปิดประตูสู่การยอมรับในระดับโลก
ที่มา:@paulbarron

