สวิตเซอร์แลนด์ ชาติมหาอำนาจทางการเงินขนาดเล็ก กำลังตกที่นั่งลำบากอย่างหนัก หลังจากถูกรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ตั้ง “กำแพงภาษี” สูงถึง 39% กับสินค้านำเข้า ซึ่งหลังจากความพยายามที่จะตอบโต้อย่างแข็งกร้าวในตอนแรกประสบความล้มเหลว ล่าสุดสวิตเซอร์แลนด์ต้องกลับมาที่โต๊ะเจรจาพร้อมกับ “ข้อเสนอพิเศษ” ที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยยอมใช้ “อุตสาหกรรมทองคำ” อันเลื่องชื่อของตนเป็นเครื่องมือต่อรองเพื่อเอาใจทรัมป์
กำแพงภาษี 39% เมื่อทรัมป์ “เข้าใจผิด”?
จุดเริ่มต้นของปัญหาดูเหมือนจะมาจาก “ความเข้าใจผิด” ของทรัมป์เกี่ยวกับตัวเลขการค้า ทรัมป์ไม่พอใจที่สวิตเซอร์แลนด์เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ อย่างมหาศาลในช่วงต้นปี
แต่ในความเป็นจริง ตัวเลขดังกล่าวพุ่งสูงขึ้นผิดปกติจากการที่เทรดเดอร์แห่ส่งออกทองคำจากสวิสฯ ไปสหรัฐฯ เพียงครั้งเดียวเพื่อเก็งกำไรจากข่าวลือเรื่องกำแพงภาษี ไม่ใช่ภาวะการค้าปกติแต่อย่างใด ถึงกระนั้น ความเข้าใจผิดนี้ได้นำไปสู่กำแพงภาษี 39% ที่กำลังสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อเศรษฐกิจของสวิตเซอร์แลนด์
ข้อเสนอ ‘ทองคำ’ เพื่อเอาใจทรัมป์
เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ รัฐบาลสวิสฯ ได้ยื่นข้อเสนอใหม่แก่นายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ว่า โรงหลอมทองคำของสวิตเซอร์แลนด์จะเข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมทองคำของสหรัฐฯ
พูดให้ง่ายคือ สวิสฯ จะยอมย้ายธุรกิจส่วนที่มี กำไรน้อยที่สุด ของตัวเองไปทำที่อเมริกาแทน นั่นคือกระบวนการ “หลอมและหล่อใหม่” ซึ่งเป็นการนำทองคำแท่งขนาดใหญ่จากตลาดลอนดอน มาหลอมแล้วหล่อเป็นทองคำแท่งขนาดเล็กตามที่ตลาดนิวยอร์กนิยม
เสียงจากวงใน ดีลนี้ “ไม่คุ้มทุน”?
แม้รัฐบาลจะเสนอดีลนี้ออกไป แต่คนในอุตสาหกรรมทองคำกลับมองว่ามันอาจจะไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก
- คริสตอฟ ไวลด์ ประธานสมาคมผู้ผลิตและค้าโลหะมีค่าของสวิสฯ ชี้ว่า ธุรกิจหลอมทองใหม่นี้มีกำไรน้อยมาก และอาจไปไม่รอดในสหรัฐฯ หากไม่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล
- ซิโมน โนโบลค ผู้บริหารของ Valcambi SA โรงหลอมทองที่ใหญ่ที่สุดของสวิสฯ กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “มันไม่สมเหตุสมผลทางธุรกิจเลย” ที่จะไปสร้างโรงงานใหม่ในสหรัฐฯ เพราะตลาดที่นั่นอิ่มตัวแล้ว และธุรกิจนี้ต้องทำในปริมาณมหาศาลจึงจะคุ้มทุน
ท่าทีของคนในวงการสะท้อนให้เห็นว่า ข้อเสนอของรัฐบาลสวิสฯ อาจเป็นไปเพื่อการทูตมากกว่าผลประโยชน์ทางธุรกิจอย่างแท้จริง
กลายเป็นแพะ? ศึกในประเทศซัดอุตสาหกรรมทองคำ
ซ้ำร้ายกว่านั้น อุตสาหกรรมทองคำที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือต่อรองกับทรัมป์ กำลังกลายเป็น “แพะรับบาป” ในประเทศตัวเอง นักการเมืองและนักธุรกิจบางกลุ่มเริ่มออกมาเรียกร้องให้ เก็บภาษีอุตสาหกรรมทองคำ เพื่อนำรายได้มาชดเชยผลกระทบจากกำแพงภาษีของทรัมป์
สถานการณ์นี้ทำให้สวิตเซอร์แลนด์ตกอยู่ในภาวะ “ศึกสองด้าน” ด้านหนึ่งต้องเจรจากับมหาอำนาจที่อาจจะไม่ได้เข้าใจข้อเท็จจริงทั้งหมด ส่วนอีกด้านหนึ่งก็ต้องรับมือกับความขัดแย้งภายในที่กำลังโจมตีอุตสาหกรรมที่เป็นหัวใจสำคัญของประเทศ
ที่มา: Yahoo.finance

