<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

OpenAI โค่น SpaceX! ขึ้นแท่น ‘บริษัทเอกชนมูลค่าสูงสุดในโลก’ แตะ 5 แสนล้านเหรียญ

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

บัลลังก์บริษัทเอกชนที่มีมูลค่าสูงสุดในโลกได้เปลี่ยนมือแล้ว! OpenAI บริษัทผู้สร้าง ChatGPT ได้ทะยานขึ้นแซงหน้า SpaceX อย่างเป็นทางการ หลังจากปิดดีลการขายหุ้นของพนักงาน (Employee Share Sale) มูลค่า 6.6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งได้ประเมินมูลค่าบริษัทไว้สูงถึง 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 18.25 ล้านล้านบาท)

เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่สร้างสถิติใหม่ แต่ยังตอกย้ำถึงความร้อนแรงของการแข่งขันในอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนมหาศาลอย่างต่อเนื่อง

ดีลประวัติศาสตร์ พนักงานขายหุ้น-นักลงทุนยักษ์ใหญ่เข้าซื้อ

การประเมินมูลค่าครั้งประวัติศาสตร์นี้ไม่ได้มาจากการระดมทุนรอบใหม่โดยตรง แต่เป็น “การขายหุ้นทุติยภูมิ” (Secondary Sale) ที่เปิดโอกาสให้พนักงานปัจจุบันและอดีตที่ถือหุ้นมาอย่างน้อย 2 ปี สามารถขายหุ้นของตนเองให้กับกลุ่มนักลงทุนยักษ์ใหญ่ได้

ผู้ที่เข้าซื้อในรอบนี้ประกอบด้วยกองทุนชั้นนำของโลกอย่าง Thrive Capital, SoftBank Group, Dragoneer Investment Group, MGX (กองทุนจากอาบูดาบี) และ T. Rowe Price

การเติบโตของ OpenAI เป็นไปอย่างก้าวกระโดด โดยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บริษัทเพิ่งมีมูลค่าอยู่ที่ 3 แสนล้านดอลลาร์ และการทะยานสู่ 5 แสนล้านดอลลาร์ ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน ทำให้ OpenAI แซงหน้า SpaceX ที่มีมูลค่าประเมินล่าสุดอยู่ใกล้เคียง 4 แสนล้านดอลลาร์ไปอย่างเป็นทางการ

เบื้องหลังความเชื่อมั่น ดีลยักษ์กับ Nvidia และ Stargate

ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ผลักดันให้มูลค่าบริษัทพุ่งสูงขึ้น มาจากความคืบหน้าของโปรเจกต์ขนาดมหึมาหลายโครงการ:

  • พาร์ทเนอร์ชิพกับ Nvidia ข้อตกลงสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ Nvidia อาจลงทุนสูงถึง 1 แสนล้านดอลลาร์
  • โปรเจกต์ Stargate ความร่วมมือกับ SoftBank และ Oracle ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลทรัมป์ เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ของสหรัฐฯ

สงครามแย่งชิง ‘คนเก่ง’ เหตุผลที่ต้องให้พนักงานรวย

อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังดีลการขายหุ้นครั้งนี้คือ การรักษาบุคลากรหัวกะทิ

ในขณะที่คู่แข่งอย่าง Meta กำลังทุ่มเงินมหาศาลเสนอ “แพ็คเกจค่าจ้างระดับร้อยล้านเหรียญ” เพื่อดึงตัวพนักงานคนเก่งไปร่วมทีม Superintelligence Labs แห่งใหม่ การเปิดโอกาสให้พนักงานได้ขายหุ้นและรับรู้ความมั่งคั่งของตนเองจึงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ OpenAI ใช้เพื่อ “มัดใจ” พนักงานให้อยู่กับบริษัทต่อไปในสงครามแย่งชิงบุคลากร AI ที่ดุเดือดนี้

ที่มา: decrypt