<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เตือนภัยร้อน! บล็อคเกอร์จวกแอปฯ Dime! ดีไซน์ UI ยั่วโลภ เสี่ยงทำมือใหม่ Options ขาดทุนยับ

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักต่อ ‘แอปพลิเคชันลงทุนแห่งหนึ่ง’ ที่มีชื่อว่า Dime! กรณีการนำเสนอฟีเจอร์ซื้อขาย Options โดยมีข้อกล่าวหาว่า รูปแบบการสื่อสารและหน้าตาผู้ใช้งาน (UI) เน้นการโชว์ ‘โอกาสทำกำไรสูง’ จนบดบังคำเตือนความเสี่ยง ทำให้ผู้ใช้งานที่ขาดความรู้ความเข้าใจแห่เข้าไปลงทุนและประสบภาวะขาดทุนอย่างรุนแรง

นักลงทุนรายใหญ่และผู้เชี่ยวชาญในวงการได้ออกมาโพสต์เตือนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยระบุว่าเครื่องมือทางการเงินอย่าง Options มีความซับซ้อนกว่าที่แอปพลิเคชันนำเสนอ และการสื่อสารที่เน้นอารมณ์ความโลภอาจเป็นอันตรายต่อนักลงทุน

การสื่อสารที่ ‘กระตุ้นอารมณ์’ และคำเตือนที่ถูกลดความสำคัญ

ประเด็นวิจารณ์หลักที่ถูกยกมาคือ:

  • UI โชว์กำไรล่อตาล่อใจ: Dime! ได้ออกแบบหน้าจอให้แสดงข้อความเน้นย้ำถึง “โอกาสทำกำไรถึง XXX%” อย่างโดดเด่น ซึ่งเป็นการกระตุ้นอารมณ์ของนักลงทุนอย่างจัง
  • คำเตือนความเสี่ยงตัวเล็ก: แม้จะมีการระบุคำเตือนเรื่องความเสี่ยงว่า “มีโอกาสขาดทุนสูงสุดเท่ากับราคาออปชันที่คุณซื้อ” แต่ขนาดตัวอักษรกลับเล็กกว่ามาก เมื่อเทียบกับข้อความที่ยั่วยุให้เกิดความสนใจในผลตอบแทน
  • Options ไม่ใช่การพนัน: ผู้เชี่ยวชาญย้ำว่า Options ไม่ใช่แค่เรื่องของการ “แทงสูง-ต่ำ” แต่เป็นเครื่องมือทางการเงินที่ต้องพิจารณาปัจจัยเชิงลึกมากมาย ทั้ง แนวโน้มราคาหุ้น, ราคาใช้สิทธิ (Strike Price) และปัจจัยด้านเวลา

สถานการณ์ในกลุ่มลงทุนสะท้อนปัญหาชัดเจน เมื่อมีนักเทรดมือใหม่หลายรายที่ประสบความสูญเสียอย่างหนัก หลังเห็นตัวเลขกำไรในหน้าจอ แต่ไม่เข้าใจกลไกการซื้อขาย Options ที่ซับซ้อน

ข้อเรียกร้อง: บังคับสอบวัดความรู้ก่อนลงทุน Options

นักลงทุนที่ออกมาเตือนภัยได้เสนอแนะแนวทางแก้ปัญหา โดยเรียกร้องให้ Dime! และหน่วยงานกำกับดูแลพิจารณาใช้มาตรการที่เข้มงวดขึ้น:

  1. ทำแบบทดสอบความรู้: ควรมีการ จัดทำแบบทดสอบความรู้เกี่ยวกับ Options หากนักลงทุนทดสอบไม่ผ่าน ก็ไม่ควรให้เข้าถึงการลงทุนในสินทรัพย์ดังกล่าว
  2. ให้ กลต. พิจารณา: เรียกร้องให้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) เข้ามาพิจารณาและ ออกข้อกำหนดให้มีการสอบวัดความรู้ ก่อนที่นักลงทุนจะสามารถเข้าลงทุนใน Options ได้ เพื่อสกัดกั้นความสูญเสียในตลาดอนุพันธ์ของนักลงทุนรายย่อย

ที่มา: @kafaak